BTS สภาพคล่องสูง กทม. คืนหนี้ 3.64 หมื่นล้าน พร้อมเข้าร่วมค่าโดยสาร 40 บาทต่อวัน

Loading

BTS สภาพคล่องสูง กทม. คืนหนี้ 3.64 หมื่นล้าน นำเงิน 1.5 หมื่นล้านใช้คืนหนี้เงินกู้ อีก 20,000 ล้านใช้สำหรับการลงทุน ส่วนสัญญาที่เหลือมั่นใจกทม. จ่ายตรงเวลา พร้อมหนุนนโยบายรัฐบาล ค่าโดยสาร 40 บาทต่อวัน

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด มหาชน หรือ BTS กล่าวว่า ภายหลังจาก กรุงเทพมหานคร (กทม.)ได้ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน – วงเวียนใหญ่ – บางหว้า และช่วงอ่อนนุช – แบริ่ง และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต จำนวน 36,444 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย ให้แก่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BTS ส่งผลให้กลุ่ม BTS มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลง จาก 1.39 เท่า เหลือ 1 เท่า โดยเงินที่ได้จากการชำระหนี้ของกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งประมาณ 15,000 ล้านบาทจะนำไปชำระหนี้เงินกู้ และอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท เตรียมไว้จ่ายหนี้ที่ใกล้จะครบกำหนดและไว้สำหรับการลงทุน โดย BTS มีแผนสั่งซื้อขบวนรถไฟฟ้าเข้าเพิ่ม เสริมการบริการในอนาคต

“การที่บริษัทฯ ได้รับการชำระหนี้ในวันนี้ เชื่อว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี เนื่องจากบริษัทฯ มีสภาพคล่อง และเงินทุนที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งทางกรุงเทพฯ ได้มีการทำข้อตกลงกับบริษัทฯ ในเรื่องการชำระหนี้ทำให้หลังจากนี้การชำระหนี้จากกรุงเทพมหานครจะตรงต่อเวลาอย่างแน่นอน เพราะเราได้ทำข้อตกลงกับกรุงเทพฯในการจ่ายค่าจ้างเดินรถทุกเดือน โดย BTS จะมีการวางบิลทุกวันที่ 3 ของทุกเดือน กทม. จะต้องชำระเงินค่าจ้างในวันที่ 20 ของทุกเดือน”นายคีรี กล่าว

นายคีรี กล่าวว่า สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหลัก ช่วงสถานีหมอชิต – สถานีอ่อนนุช และช่วงสถานี สนามกีฬาแห่งชาติ – สถานีสะพานตากสิน ที่จะหมดสัมปทานในปี 2572 นั้นบริษัทฯ ยังรับว่าจ้างในการเดินรถและซ่อมบำรุง รถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นทางหลัก และส่วนต่อขยายต่อไปอีก 13 ปี ตั้งแต่ปี 2573 จนถึงปี 2585  ให้กับกทม. ผ่าน บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) โดยการรับจ้างเดินรถเส้นทางหลัก ช่วงสถานีหมอชิต – สถานีอ่อนนุช  และช่วงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ – สถานีสะพานตากสิน นั้นประเมินค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงประมาณ 1,300 – 1,400 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-คูคต, บางจาก-สมุทรปราการ และโพธิ์นิมิตร-บางหว้า จะมีค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง 740 ล้านบาท

นายคีรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะมีนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 40 บาทต่อวันนั้นอะไรที่เป็นประโยนช์กับประชาชนกลุ่ม BTS ก็พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ในปัจจุบันรัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคมยังไม่ได้มีการเจรจากับกลุ่ม BTS อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่านโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 40 บาทต่อวันนั้นจะส่งผลให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าทั้งระบบจะเพิ่มขึ้น 70-80% อย่างแน่นอน จากปัจจุบันรถไฟฟ้าทั้งระบบมีผู้โดยสารรวมราว 2 ล้านเที่ยวคนต่อวัน

ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะมีนโยบายซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้านั้น นายคีรี กล่าวว่า หากเป็นนโยบายที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนบริษัทก็พร้อมร่วมมือกับรัฐบาล แต่การซื้อสัมปทานคืนอย่างน้อยรัฐบาลจะต้องจ่ายคืนเงินที่ BTS ได้ลงทุนไปแล้ว เช่น การลงทุนค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวกลุ่ม BTS ลงทุนไปประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และเหลือสัมปทานอีก 4 ปี ก็ต้องมาประเมินต้นทุนกันว่ารัฐบาลจะต้องจ่ายเท่าไหร่ รถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลืองที่เป็นการกำกับดูแลของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่มีสัญญาร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost โดย รฟม. เป็นผู้ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนกลุ่ม BTS เป็นผู้ลงทุนค่าก่อสร้าง ค่าระบบรถไฟฟ้าก็ต้องนำมาประเมินมูลค่าในส่วนที่ค้างจ่ายกันว่าเป็นเท่าไหร่