EA ไตรมาส 3 ฉายแววเด่นรับรู้รายได้รถ EV บัสส่งมอบ 500 คัน

ผู้ชมทั้งหมด 480 

EA ไตรมาส 3/65 ฉายแว่วเด่นเริ่มรับรู้รายได้รถ EV บัสส่งมอบ 500 คัน ขณะไตรมาส 4/65 คาดส่งมอบเป็น 1,000-1,500 คัน พร้อมเล็งผลิตรถบรรทุก-รถกระบะไฟฟ้า ปลายปีนี้ขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่ 2 กิกะวัตต์ มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 20% หนุนทำนิวไฮต่อเนื่อง 5 ปี  

นายวสุ กลมเกลี้ยง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และวางแผนการลงทุน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3/2565 จะเริ่มรับรู้รายได้ธุรกิจ EV โดยคาดว่าจะส่งมอบรถโดยสารไฟฟ้า (EV บัส) ให้บริษัท ไทย สมายล์ บัส จํากัด (TSB) และบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด (SMB) ได้ประมาณ 500 คัน และในช่วงไตรมาส 4/2565 ส่งมอบ EV บัสเป็น 1,000 – 1,500 คัน ซึ่งธุรกิจ EV จะช่วยสนับสนุนให้รายได้เติบโตได้ตามเป้าหมาย 20% จากปี 2564 มีรายได้ร่วม 20,558 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนยังไม่มีแผนขยายกำลังการผลิต โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์ม 278 เมกะวัตต์ พลังงานลม 386 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิตเป็น 664 เมกะวัตต์ โดยในปีนี้ได้มีการลงทุนปรับเปลี่ยนแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ติดตั้งโซลาร์ฟาร์มของบริษัทฯ ในจ.ลำปาง และจ.นครสวรรค์ ใหม่ ช่วยให้กำลังการผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนรายได้เติบโต และในปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินลงทุนปรับเปลี่ยนแผงโซลาร์เซลล์อีก 180 เมกะวัตต์ จะช่วยให้การผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้แล้วบริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจไบโอดีเซล (B100) ที่มีกำลังการผลิตในระดับ 800,000 ลิตรต่อวัน ซึ่งทิศทางราคา B100 คาดว่ายังคงทรงตัวในระดับสูง ส่วนธุรกิจ Energy Storage ปลายปีนี้จะขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่เป็น 2 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี (GWh) จาก 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี และในปี 2566 จะขยายเป็น 4 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี    

นายวสุ กล่าวว่า สำหรับธุรกิจ EV นั้นบริษัทฯ มีแผนผลิตรถบรรทุก EV โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4/2565 เช่นเดียวกับการผลิตรถกระบะ EV ก็คาว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4 นี้ หลังจากได้ลงนาม MOU กับกรมสรรพสามิต เข้าร่วมโครงการสนับสนุนและส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งการสนับสนุนของภาครัฐก็เป็นโอกาสที่ดีต่อกลุ่มบริษัท EA ในการสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ EA สามารถรองรับการผลิตได้ถึง 9,000 คันต่อ 2 กะต่อปี

โดยในปี 2566 ธุรกิจ EV ของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดคาดว่าจะมียอดสั่งผลิตรถโดยสารจาก TSB และ SMB รวมประมาณ 4,000 คันสำหรับส่งมอบให้ “ไทย สมายล์ บัส” ที่ได้ใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง ด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง รวมจำนวน 71 เส้นทาง และส่งมอบให้กับ “สมาร์ทบัส” ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีสัมปทานการเดินรถรวม 37 สาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า EA ในปี 2565 คาดว่ารายได้รวมจะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่อง 5 ปี นับจากปี 2561 ที่มีรายได้รวม 12,490 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 14,954 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้รวม 17,196 ล้านบาท และในปี 2564 ที่มีรายได้รวม 20,558 ล้านบาท