EGCO ตั้งงบ 3 หมื่นลบ. ลุยลงทุน ปี2569

Loading

EGCO Group ตั้งงบลงทุรปี 2569 แตะ 30,000 ล้านบาท เน้นโครงการที่เกี่ยงข้องกับพลังงาน พร้อมนำรายได้ไปแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ (Asset Recycling) ลุ้นปิดดีลM&P เพิ่ม เตรียมเดินหน้าลงทุนโครงการ RE Biglot รอบที่ 2 ลั่นพร้อมรับโอกาสลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ และ Direct PPA

นายสมเกียรติ สุทธิวานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group เปิดเผยในงาน Oppday Q3/2025 ของ EGCO วันที่ 28 พ.ย.2568 โดยระบุว่า ในปี 2569 บริษัทตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เท่ากับปี 2568 โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณได้ตามเป้าจากปี 2568 ที่ทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งจะเน้นการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเป็นหลักทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน รวมถึงมุ่งเน้นการนำรายได้ไปแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ (Asset Recycling) ตามนโยบายของ นายธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group คนใหม่

โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานของในปี 2569 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ตามความคืบหน้าการเข้าลงทุนในโครงการต่างๆ ได้แก่  โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศ RE Biglot รอบที่ 2 ในรูปแบบ Feed-in Tarff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงในส่วนพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ซึ่งบริษัทได้รับการคัดเลือกจำนวน 11 โครงการ กำลังผลิตติดตั้งรวม 448 เมกะวัตต์ คาดว่า จะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้

การเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม 10% โรงไฟฟ้า Linden Cogen แตะ 38% ซึ่งจะทำให้รับรู้รายได้เต็มปีในปี 2569 รวมถึงรับรู้รายได้เต็มปี หลังจากการซ่อมบำรุงตามแผนของโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ภายใต้สัญญา PSA ฉบับใหม่ ซึ่งเริ่ม COD เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมาตลอดจนการเติบโตตามแผนขยายการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน CDI Group ในอินโดนีเซีย ที่ยังเดินหน้าต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจและอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในนโยบาย Direct PPA ที่เปิดทางให้ภาคเอกชนทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะอาดกับผู้ผลิตได้โดยตรง ซึ่งเป็นแรงดึงดูดสำคัญในการลงทุนของธุรกิจ Data Center และ AI ที่ต้องการพลังงานสะอาดและมีเสถียรภาพ

อีกทั้ง EGCO Group ยังเดินหน้าลงทุนเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าซึ่งเป็นธุรกิจหลัก จากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติคุณภาพสูงและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อเป้าหมาย Net Zero ผ่านการลงทุนทั้งรูปแบบการควบรวมและซื้อกิจการ (Mergers and Acquisitions – M&A) ที่จะเกิดขึ้นในปี2569 และการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ (Greenfield) โดยต่อยอดและเน้นการลงทุนในประเทศที่มีฐานธุรกิจและพันธมิตรอยู่แล้ว โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานธุรกิจที่สำคัญของ EGCO Group ที่ได้เข้าไปลงทุนมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

สำหรับนโยบายจากเงินปันผลนั้น EGCO Group ยังคงนโยบายที่จะแบ่งกำไรสุทธิสัดส่วน 40% เพื่อจ่ายเงินปันผล และอีก 60%ใช้สำหรับรองรับขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มกระแสเงินสดให้กับบริษัท

ปัจจุบัน EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,738 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,538 เมกะวัตต์ (คิดเป็น 23% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่งเซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐฯ