ผู้ชมทั้งหมด 233
“ไออาร์พีซี” หวัง สเปรดปิโตรเคมีปรับขึ้นต่อเนื่อง หนุนผลประกอบการไตรมาส 2/67 โตขึ้นจากไตรมาส1/67 แม้ค่าการกลั่นปรับลดลง มั่นใจสถานะการเงินแกร่ง หลังบอร์ดอนุมัติกรอบเงินกู้ 1.2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ “WHAIER” ขายที่ดินเฟส 1 ใกล้หมดแล้ว หนุนรายได้ปี 67 พร้อมลุยปรับพื้นที่เฟส 2 ต่อ
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2024/05/S__153427971_0-1024x574.jpg)
นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยในงาน Oppday Q1/2024 IRPC วันที่ 16 พ.ค.2567 โดยระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2ปี เทียบกับไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทยังคาดหวังว่า ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด)ธุรกิจปิโตรเคมี จะดีขึ้นจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา หลังต้นไตรมาส 2 พบว่าสเปรดปรับตัวดีขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ พลาสติกชนิด PP ที่บริษัทมีปริมาณการผลิตจำนวนมาก ขณะที่ พลาสติกชนิด ABS ราคาปรับขึ้นอยู่ที่กว่า 700 ดอลลาร์ต่อตัน จากต้นปีอยู่ที่กว่า 500 ดอลลาร์ต่อตัน มีเพียงพลาสติกชนิด HDPE ที่ราคาอ่อนตัวลง
อย่างไรก็ตาม ค่าการกลั่นในไตรมาส 2 อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ฉะนั้น จะต้องติดตามดูว่าในช่วงที่เหลือของไตรมาส 2 นี้ ทิศทางผลการดำเนินงานของธุรกิจปิโตรเคมีกับค่าการกลั่น ตัวไหนจะมีน้ำหนักต่อผลประกอบการมากกว่ากัน
สำหรับสถานะการเงินของบริษัทในปีนี้ มั่นใจว่า สภาพคล่องยังดีอยู่ และไม่มีความจำเป็นต้องออกหุ้นกู้ เนื่องจากบอร์ดบริษัท ได้อนุมัติกรอบวงเงินในการระดมทุนปีนี้ ไว้แล้วอยู่ที่ไม่เกิน 1.2 หมื่นล้านบาท หลังจากเห็นทิศทางของราคาปิโตรเคมีที่เผชิญกับความไม่แน่นอนตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันได้ทำสัญญาบริหารเงินทุนกับสถาบันการเงินไปแล้ว 4-5 แห่งภายใต้กรอบวงเงินดังกล่าว ประกอบกับผลประกอบการไตรมาส 1ที่ออกมา มี EBITDA กว่า 4,000 ล้านบาท จึงมั่นใจว่า สภาพคล่องไม่มีปัญหา รวมถึงการชำระคืนหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยด้วย ฉะนั้นในปีนี้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องออกหุ้นกู้เพิ่มเติม แต่ในปีหน้า อาจจะต้องออกหุ้นกู้เพิ่มเติม โดยจะติดตามสถานการณ์ธุรกิจในช่วงปลายปีนี้ เพื่อขออนุมัติบอร์ดต่อไป ส่วนจะระดมทุนในรูปแบบไหนนั้น คงต้องประเมินในระยะต่อไป
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2024/05/S__153427973_0-1024x586.jpg)
ส่วนความคืบหน้า โครงการนิคมอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง (WHAIER) อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ไออาร์พีซี และบริษัทดับบลิวเอชเออินดัสเตรียลดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (WHAID) โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 40 และ WHAID ถือหุ้นร้อยละ 60 เพื่อการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้พร้อมรองรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ปัจจุบัน การลงทุนในเฟสที่ 1 ได้ขายพื้นที่ไปเกือบหมดแล้ว ทำให้จะรับรู้รายได้ในปีนี้ และรายได้บางส่วนจะนำไปใช้สำหรับปรับที่ดินเพื่อเตรียมขายพื้นที่ในเฟสที่ 2 ต่อไป
ขณะที่ธุรกิจท่าเรือของบริษัท ที่มีอยู่ 2 ท่าเรือนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากท่าเรือทั้ง 2 แห่ง ทั้งการเพิ่มการใช้บริการ การรับจ้างขนส่งสินค้า หรือ การร่วมมือกับพันธมิตร เป็นต้น เพื่อหาแนวทางเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต
“การรุกตลาดใหม่ๆของบริษัท โดยเฉพาะการเข้าไปเจาะตลาดประเทศอินเดียนั้น บริษัทได้เริ่มดำเนินการเข้าไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากว่า ทุกประเทศหันมาเล็งการทำตลาดในอินเดียเช่นเดียวกัน เพื่อทดแทนการทำตลาดในจีนที่ซบเซาลง ฉะนั้น การหาลู่ทางลงทุนจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่บริษัทยังคงเดินหน้าหาโอกาสการลงทุนในอินเดียต่อไป เพราะมองว่าเป็นตลาดที่จะเติบโตอย่างมีศักยภาพในอนาคต”
ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้าที่เป็นการลงทุนผ่านบริษัทร่วมทุน คือ ไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ ซึ่งกำลังจะเปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าในยูนิตใหม่ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ก็น่าจะเป็นอีส่วนที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้น