ผู้ชมทั้งหมด 787
WHAUP คว้าดีลติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถ บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ขนาดการผลิตไฟฟ้า 7.7 เมกะวัตต์ ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่หลังคารวม 59,000 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุน 235 ล้านบาท
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2022/08/1.คุณสมเกียรติ-CEO-WHAUP-1024x683.jpg)
นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญากับ บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ จำกัด เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังบนหลังคาลานจอดรถ (Solar Carpark) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1
โดยโครงการ Ford Solar Carpark มีขนาดพื้นที่ 59,000 ตารางเมตร หรือ คิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 7.7 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุน 235 ล้านบาท และเป็นโครงการที่ติดตั้งตามมาตรฐาน NEC2020 จะเสริมความมั่นคงและลดต้นทุนด้านพลังงานให้กับลูกค้า อีกทั้งยังได้ใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ และหลังคายังเป็นร่มเงาในการจอดรถ ช่วยยืดอายุวัสดุติดรถยนต์ที่ทำจากยาง โดยโครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการติดตั้งแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เดินหน้าขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนทั้งโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในนิคมอุตสาหกรรม และนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเออย่างต่อเนื่อง และการคว้าโครงการในครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำศักยภาพการให้บริการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar rooftop) แบบครบวงจรของ WHAUP
สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ มีการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะสมไปแล้ว กว่า 15 โครงการ รวม 33.8 เมกะวัตต์ ทำให้ปัจจุบัน WHAUP มีพอร์ตสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะสม รวม 77 โครงการ คิดเป็น 127 เมกะวัตต์ โดยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 46 โครงการ คิดเป็น 40.2 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างเตรียมเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอีก 6 โครงการ ประมาณ 7.68 เมกะวัตต์ ส่งผลให้เชื่อมั่นว่าเป้าหมายในปี 2565 บริษัทฯ สามารถเพิ่มพอร์ตรวมของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะสมแตะ 150 เมกะวัตต์ตามแผนที่วางไว้
มร. ซิลวิโอ อิลลี่ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตของฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี มีเป้าหมายที่จะดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างโลกใบนี้ให้ดีขึ้น ให้ทุกคนได้มีอิสระในการเดินทาง เพื่อขับเคลื่อนความฝันของตนเอง โดยฟอร์ดมุ่งมั่นที่จะพัฒนากระบวนการผลิตรถยนต์ของเราทั่วโลกให้เป็นกลางในการปลดปล่อยคาร์บอนภายในปี 2593 และใช้พลังงานสะอาด 100% ในกระบวนการผลิตรถยนต์ภายในปี 2578 และคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ได้ 143,000 ตัน ตลอดระยะเวลา 25 ปี
ปัจจุบัน โรงงานผลิตรถฟอร์ดในจังหวัดระยองทั้ง 2 แห่ง ทั้งโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) และโรงงานร่วมทุนออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) (เอเอที) ได้หันมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยโรงงานเอเอที ได้ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์แล้วเสร็จไปเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ และในปีนี้ โรงงานเอฟทีเอ็ม ได้เริ่มดำเนินการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 7 เมกกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าการติดตั้งจะแล้วเสร็จภายในช่วงต้นปีหน้า โดยทั้งสองโครงการ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก WHAUP ในการออกแบบ และทำโครงสร้างเพื่อติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งแน่นอนว่าการเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์นี้ ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถผลักดันการใช้พลังงานสะอาด ลดการปลดปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมและธุรกิจในอนาคต