ผู้ชมทั้งหมด 464
บางจากฯ เตรียมซื้อเก็บสต็อกน้ำมันเพิ่ม รับมือเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่ พ.ย.-ธ.ค.นี้ ดันความต้องการใช้และราคาพุ่ง พร้อมคุ้มรายจ่ายบริหารจัดการต้นทุนรองรับเศรษฐกิจโลกผันผวน ขณะที่ครึ่งหลังปีนี้ คาดยอดการใช้น้ำมันยังโต ตามมาตรการผ่อนคลายเปิดประเทศ ลุยกลั่นน้ำมัน เฉลี่ยทั้งปีนี้ ไม่ต่ำกว่าระดับ 120 พันบาร์เรลต่อวัน พร้อมลุ้นรัฐ กลับมาใช้ บี7 และ บี10 หลังราคาบี100 ถูกกว่าดีเซล
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บางจากฯ ประเมินว่า ทิศทางราคาน้ำมันดิบในช่วงปลายปีนี้ จะปรับสูงขึ้น ตามความต้องการใช้น้ำมันในต่างประเทศที่สูงขึ้น เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายปี โดยช่วงนี้ บางจากฯ ได้เตรียมพร้อมรับมือด้วยการจัดซื้อเพื่อจัดเก็บสต็อกน้ำมันไว้ล่วงหน้า เพราะมองว่า ราคาน้ำมันจะเริ่มปรับสูงขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป และเมื่อพ้นฤดูหนาว ราคาก็น่าจะทยอยปรับลดลงได้
“ราคาน้ำมัน จะเป็นอย่างไรนั้น ไม่มีใครตอบได้ บางจากฯเอง ก็ดูว่า ฤดูหนาวราคาจะขึ้นและกระทบอย่างไร แต่ช่วงนี้ ก็มีข่าวดี คือราคาไบโอดีเซล(บี100) ถูกลง และอยู่ในระดับตำกว่าน้ำมัน จากช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ ที่อินโดนีเซีย ไม่ส่งออก ราคาบี100 ขึ้นไปแตะ 50 บาทต่อลิตร แต่ล่าสุด ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 33-34 บาทต่อลิตร ก็ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลแล้ว และก็มีโอกาสที่รัฐบาลจะกลับไปเพิ่มสัดส่วนผสมบี100 ในดีเซล เป็น บี7 และ บี 10ได้ ก็ต้องรอรดูนโยบายภาครัฐต่อไป”
ส่วนแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะยังเติบโต ต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นผลจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้า-ออกประเทศของภาครัฐ โดยจะส่งผลให้การใช้น้ำมันเครื่องบิน(Jet) ค่อยๆฟื้นตัวกลับมา แต่ในช่วงไตรมาส 3 ก็เป็นช่วงโลว์ซีซั่น เพราะเข้าสู่ฤดูฝน และนักท่องเที่ยวก็ยังไม่เดินทางเข้ามามากนัก ก็คงต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงปลายปี ถ้านักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากก็น่าจะช่วยรักษาโมเมนตัมไว้ได้ ซึ่งในแง่ของดีมานด์เชื้อเพลิงยังคงเติบโต แต่ต้องดูว่าจะทำให้คุ้มค่าได้อย่างไร
โดยในส่วนของโรงกลั่นบางจากฯ คาดว่า ทั้งปีนี้ จะยังคงอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ย ไม่ต่ำกว่า ระดับ 120 พันบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปัจจุบัน มีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยที่สูงในระดับ 123-124 พันบาร์เรลต่อวัน ขณะที่การจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม) มีความต้องการใช้สูงเกินอัตรากำลังการผลิต หรือ อยู่ที่ระดับ 140 พันบาร์เรลต่อวัน ทำให้ต้องมีการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปมาจำหน่ายด้วย
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ ของบางจากฯ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 10 ปี ที่ประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนนั้น จะนำเงินดังกล่าวมาใช้รองรับแผนการลงทุนตามแผนที่วางไว้ และในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะออกหุ้นกู้เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าตั้งแต่ช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา บางจากฯได้ตัดงบรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ราว 30% เพื่อรับมือกับความผัวผวนทางธุรกิจ และเมื่อสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติก็กลับมาประมาณ 10% ก็เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ ขณะเดียวกันก็ใส่ใจเรื่องของการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้บริโภค เช่น เรื่องของน้ำมันที่สะอาดมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ เป็นต้น