ทอท. ยันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมให้บริการผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น ไร้ปัญหาติดขัด

ผู้ชมทั้งหมด 530 

ทอท. ยืนยันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมให้บริการผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากรัฐบาลเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา คาดตลอดเดือนมิถุนายนมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 70,000 คน

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด – 19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายข้อกำหนดการเข้าราชอาณาจักรสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยตั้งแต่เมื่อวันที่

1 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางผ่านเข้า – ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ในภาพรวมเฉลี่ยวันละ 70,000 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ จำนวน 42,000 คน ภายในประเทศ 28,000 คน สำหรับเที่ยวบินในภาพรวมเฉลี่ยวันละ 460 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 240 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศจำนวน 220 เที่ยวบิน

ทั้งนี้เพื่อให้การบริการผู้โดยสารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทสภ. จึงได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงบุคลากรให้พร้อมรองรับและสอดคล้องกับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยในส่วนของผู้โดยสารขาออก ทสภ. ได้เปิดใช้งานเคาน์เตอร์เช็คอินเพื่อรองรับการให้บริการของสายการบินครบทุกเคาน์เตอร์ จำนวน 318 เคาน์เตอร์

พร้อมมีเครื่องเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self – Service : CUSS) จำนวน 196 เครื่อง และเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop : CUBD) จำนวน 42 เครื่อง ซึ่งสามารถรองรับการให้บริการเช็คอินของสายการบินได้อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ สายการบินสามารถเปิดเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสารและเคาน์เตอร์บริการผู้โดยสารได้ล่วงหน้าถึง 3 ชั่วโมง ก่อนเที่ยวบินออก สำหรับกรณีที่ผู้โดยสารมาเช็คอินจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วน ทสภ. ยังได้จัดเจ้าหน้าที่สนับสนุนเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและจัดระเบียบการเข้าแถวเช็คอินของผู้โดยสารให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นอกจากนี้ ทสภ. ยังได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจค้นร่างกายและสัมภาระผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่จราจรบริเวณด้านหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เพื่อแก้ไขการจราจรคับคั่งในช่วงเวลาที่มีรถเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในการตรวจพื้นที่และตรวจสอบเฝ้าระวังวัตถุต้องสงสัย รวมทั้งเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง

“ทสภ. ในฐานะท่าอากาศยานหลักของประเทศ ยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการ สายการบิน ผู้ประกอบการ ให้มีความพร้อมในการบริการนักเดินทางจากทั่วโลก ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว โดย ทสภ. พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการทำงานของทุกส่วนงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ทสภ. จะทำหน้าที่เป็นประตูสู่ประเทศไทย ต้อนรับและสร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสาร พร้อมร่วมเป็นกลไกสำคัญกับรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ” นายกิตติพงศ์ กล่าว