ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปตท.ไฟเขียว แผนจัดหาเงินกู้ 5 ปี วงเงินไม่เกิน 2 แสนลบ.

ผู้ชมทั้งหมด 712 

ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปตท.ไฟเขียวแผนจัดหาเงินกู้ 5 ปี(2565-2569) วงเงินไม่เกิน 2 แสนลบ.รองรับขยายการลงทุนในอนาคต พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลครึ่งหลังปี64 อัตราหุ้นละ 0.80 บาท กำหนดจ่าย 29 เม.ย.นี้ แต่งตั้ง “ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” ดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ มีผล 14 พ.ค.65 ด้าน “อรรถพล” ยัน FID ตั้งโรงงานสร้างแพลตฟอร์มผลิตรถอีวี ในไตรมาส 2 ปีนี้ 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2565 ว่า ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาอนุมัติแผนการจัดหาเงินกู้ 5 ปี ของ ปตท. (ปี 2565-2569) ซึ่งจากแผนการลงทุน 5 ปี ของ ปตท. (ปี 2565-2569) แม้ว่า ปตท. ยังมีเงินสดคงเหลือ และสภาพคล่องเพียงพอ โดยยังไม่มีความจําเป็นในการจัดหาเงินกู้เพิ่มเติม แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ตลาดเงินและตลาดทุนมีความผันผวน พร้อมทั้ง เพื่อรองรับโอกาสในการลงทุนที่คาดว่าจะมีในอนาคต ปตท. จึงจําเป็นต้องเตรียมความพร้อมและความคล่องตัวในการบริหารการเงิน คณะกรรมการ ปตท. จึงมีมติอนุมัติแผนการจัดหาเงินกู้ 5 ปี ของ ปตท. ซึ่งหมายรวมถึงวงเงินการกู้ยืม และ/หรือการก่อหนี้ของบริษัทย่อย เพื่อจัดหาแหล่งเงินทุนให้ ปตท. ภายในวงเงินเทียบเท่า 200,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี (ปี 2565-2569) เพื่อใช้ในการลงทุน และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไป และ/หรือเพื่อทดแทนเงินกู้เดิมที่ครบกําหนดชําระ (Refinance) ซึ่งจะพิจารณาดําเนินการตามวิธีที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดต่อไป

รวมถึง ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลที่จะจ่ายสําหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2564 อีกในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท คิดเป็นจํานวน 22,850 ล้านบาท โดยเงินปันผลสําหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2564 จะจ่ายจากกําไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรในส่วนของกําไรสุทธิที่ผ่านการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลใน อัตราร้อยละ 20 ซึ่งผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาได้รับสิทธิเครดิตภาษีในการคํานวณภาษีเงิน ปันผลตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตราหุ้นละ 0.54 บาท และกําไรจาก เงินปันผลจากบริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) (ปตท. สผ.) ที่ ผ่านการเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมในอัตราร้อยละ 50 ซึ่งผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาไม่ได้ รับสิทธิเครดิตภาษีในการคํานวณภาษีเงินปันผลตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตราหุ้นละ 0.26 บาท โดยคณะกรรมการ ปตท. ได้มีมติกําหนดรายชื่อผู้ -7- ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 4 มีนาคม 2565 และกําหนดจ่ายเงินปันผลสําหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2564 ในวันที่ 29 เมษายน 2565  

อีกทั้งขอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลตามที่ คณะกรรมการ ปตท. ได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท เป็นจํานวน 34,276 ล้านบาท โดย ปตท. ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าว แล้วเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564

นอกจากนี้ ยังเห็นควรอนุมัติแต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกจากตำแหน่งตามวาระ 5 ท่าน  กลับเข้าดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง ดังนี้

1.ศ.พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ กรรมการอิสระ (ดํารงตําแหน่งอีกวาระหนึ่ง)

2. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ กรรมการ (ดํารงตําแหน่งอีกวาระหนึ่ง)

3. พลเอกธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ กรรมการอิสระ (ดํารงตําแหน่งอีกวาระหนึ่ง)

4. ม.ล. ชโยทิต กฤดากร กรรมการ (ดํารงตําแหน่งอีกวาระหนึ่ง)

5. นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการอิสระ (ดํารงตําแหน่งแทน ตําแหน่งของนายดอน วสันตพฤกษ์ ที่ว่างลง) โดยหลังจากที่ประชุมฯ อนุมัติแล้ว นายชาญศิลป์ จะมีผลดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2565 เป็นต้นไป

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ปตท.ยังเดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร (EV Value Chain) ผ่านบริษัทลูก คือ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS)  ที่จะร่วมมือกับฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ตั้ง บริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด (HORIZON PLUS) บริษัทร่วมทุนเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายตลาดและสร้างฐานการผลิต EV ในไทย โดยยืนยันว่า จะสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย(FID) เพื่อเดินหน้าก่อสร้างโรงงานพัฒนาแพลตฟอร์มผลิตรถEV ได้ตามแผนในสิ้นไตรมาส 2 ปีนี้ และจะเริ่มการผลิตเฟสแรก กำลังผลิต 50,000 คัน ด้วยงบลงทุนรวม 24,000 ล้านบาท และหากได้รับการตอบรับที่ดี จะผลิตเฟส 2 อีก 150,000 คันต่อปีในปี 2573