บอร์ด กกพ.สั่ง กฟผ.เร่งประสาน ปตท. หาสาเหตุพร้อมแก้ไขคุณภาพก๊าซฯ แหล่ง JDA-A18 ไม่ได้มาตรฐาน

ผู้ชมทั้งหมด 467 

บอร์ด กกพ. รับทราบ เหตุคุณภาพก๊าซฯ แหล่ง JDA-A18 ไม่ได้มาตรฐาน กระทบโรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 2 พร้อมสั่ง กฟผ.เร่งประสาน ปตท.หาสาเหตุและแก้ไขปัญหาไม่ให้ซ้ำรอย ลั่นยังไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ หลังดึงกระแสไฟฟ้าจากภาคกลางไปเสริมระบบ

สืบเนื่องจากกรณีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีหนังสือรายงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2566 ถึงเหตุก๊าซธรรมชาติในแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) มีค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO 2)  สูงกว่ามาตรฐาน ส่งผลให้โรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 2 ของ กฟผ. ที่เดินเครื่องจํานวน 2 หน่วย มีกําลังการผลิตตามสัญญา หน่วยละ 383 เมกกะวัตต์ ต้องลดกําลังผลิตลงเหลือเพียงหน่วยละ 280 เมกกะวัตต์ และหาก CO 2 สูงขึ้นกว่านี้จะส่งผลให้โรงไฟฟ้าจะนะไม่สามารถรับก๊าซฯ ที่มีคุณภาพดังกล่าวได้ และอาจจําเป็นต้องปลดโรงไฟฟ้าออกจากระบบได้ ซึ่งอาจจะเกิดไฟฟ้าดับบริเวณภาคใต้ตอนล่าง

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ. ระบุว่า ที่ประชุมบอร์ด กกพ. รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว พร้อมสั่งการให้ กฟผ.ในฐานะคู่สัญญาซื้อก๊าซฯ จากบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ไปร่วมกันหาสาเหตุว่าเกิดจากแหล่งก๊าซฯ เอง หรือ เกิดจากระบบ CO2 มีปัญหา รวมถึงมีสาเหตุอื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก

ทั้งนี้ ปัจจุบัน การจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ได้อาศัยสายส่งไฟฟ้าจากภาคกลางมาทดแทนปริมาณไฟฟ้าที่ขาดหายไป และ กรณีดังกล่าว จะยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าประชาชน เพราะเปรียบเสมือนการลดประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กกพ. ยังไม่ได้รายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมว่าก๊าซฯ กลับมาใช้ได้ตามปกติหรือยัง

สำหรับกรณี หากเกิดปัญหาคุณภาพก๊าซฯ ยังควบคุมไม่ได้และโรงไฟฟ้าจะนะทั้ง 2 หน่วยต้องหยุดรับก๊าซฯ ทาง กฟผ. ได้จัดเตรียมแผนในการจัดหาน้ำมัน ไว้ป้อนเป็นเชื้อเพลิงเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซฯแล้ว ฉะนั้นกรณีนี้ ก็อาจจะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าประชาชนงวดสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค. 2566) แต่คงไม่มากนัก