ประชาชนเฮ! ก.พลังงานเสนอลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลดค่าน้ำมัน – ค่าไฟฟ้า

ผู้ชมทั้งหมด 524 

ประชาชนเฮ! กระทรวงพลังงานเสนอมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 2 ด้าน ลดค่าใช้จ่าย ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรมีผล 20 ก.ย.นี้ ส่วนเบนซินคุมค่าการตลาดไม่เกิน 2 บาทต่อลิตร ช่วยกลุ่มเปราะบาง พร้อมตรึงราคาขายปลีก LPG ที่ระดับ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ลดค่าไฟฟ้า 35 สตางค์ต่อหน่วย

วันที่ 13 กันยายน 2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลเร่งด่วนในการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ประกอบกับสถานการณ์พลังงานในตลาดโลกเข้าสู่ในไตรมาสที่ 4 (ฤดูหนาว) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น กระทรวงพลังงานจึงเสนอมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 2 ด้าน ประกอบด้วย

1. ​มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาน้ำมันดีเซล ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยใช้กลไกของภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาน้ำมันเบนซิน กระทรวงพลังงานจะพิจารณารายละเอียดแนวทางการช่วยเหลือแบบมุ่งเป้าให้แก่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างและแท็กซี่ และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ ให้มีการกำกับดูแลราคาขายปลีกให้มีค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม ประมาณ 2.00 บาทต่อลิตร ตามมติ กบง.

ราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ตรึงราคาขายปลีก LPG ที่ระดับ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้ง จะมีมาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือกลุ่มเป้าหมาย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

2. ​มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าที่ประกาศเรียกเก็บกับผู้ใช้ไฟฟ้ารอบเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม 2566 ในอัตรา 4.45 บาทต่อหน่วย ลงเหลือในอัตรา 4.10 บาทต่อหน่วย หรือลด 35 สตางค์ต่อหน่วย โดยกระทรวงพลังงานร่วมกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะดำเนินการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการคิดราคาก๊าซธรรมชาติ Pool gas ให้ไม่เกินค่าประมาณการคงที่ ประมาณ 305 บาทต่อล้านบีทียู และให้นำส่วนต่างของราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับค่าก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บไปทยอยเรียกเก็บคืน ซึ่งจะทำให้ปรับลดราคาค่าไฟฟ้าลงได้อีก

นอกจากนี้จะมีการดำเนินมาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมให้แก่กลุ่มเปราะบาง อาทิ การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน โดยกระทรวงพลังงานจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเสนอต่อ ครม. ต่อไป