รถไฟจีน-ลาว หนุนส่งออกสินค้าข้ามแดน 3 แสนตันมูลค่า 6.91 พันล้าน

ผู้ชมทั้งหมด 844 

โครงการรถไฟจีน – ลาว เปิดเดินรถอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันตกประเทศจีนมายัง สปป.ลาว และประเทศไทย เส้นทางรถไฟดังกล่าวมีความสำคัญในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เมื่อมีการเชื่อมต่อโครงข่ายโดยสมบูรณ์จากจีน ลาวมายังไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน กล่าวว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากจีนมายัง สปป.ลาว และเมื่อเชื่อมกับประเทศไทยจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าตลอดเส้นทางได้ถึงร้อยละ 30 – 50

โดยใน 3-5 ปีข้างหน้า เมื่อโครงสร้างพื้นฐานในส่วนนี้ได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมมีการบริหารจัดการรองรับการขนส่ง เพื่อใช้ประโยชน์เส้นทางรถไฟสายนี้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่จะร่วมกันยกระดับเศรษฐกิจในภูมิภาคให้มีเสถียรภาพและยั่งยืน

ทั้งนี้มูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทยและ สปป.ลาว รวมการนำเข้า – ส่งออกของประเทศ ในปีงบประมาณ 2564 มีมูลค่าสูงถึง 70,000 ล้านบาท โดยประเทศไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจากการส่งออกที่มากกว่าการนำเข้าถึง 6 เท่า แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศรวมถึงการเดินทางของประชาชน แต่การค้าชายแดน ณ ด่านศุลกากรหนองคาย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงการขนส่งของไทย-ลาว-จีน พบว่า ในปี 2564 การส่งออกสินค้ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 กว่าร้อยละ 23 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 12,000 ล้านบาท ในขณะที่การนำเข้าปี 2564 ลดลงเพียงเล็กน้อยประมาณ 2,000 ล้านบาท คิดเป็นลดลงร้อยละ 8 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563

ส่วนสถานะการค้าและการขนส่งในปัจจุบันนับตั้งแต่โครงการรถไฟจีน – ลาว ได้เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 จากสถิติการส่งออกสินค้าผ่านชายแดนหนองคายในช่วงเดือนธันวาคมปี 2563 กับช่วงเดือนธันวาคมปี 2564 (ช่วงที่มีการเปิดการให้บริการรถไฟลาว-จีน) พบว่ามีปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นจาก 116,552 ตัน เป็น 304,119 ตัน ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4.64 พันล้านบาท เป็น 6.91 พันล้านบาท มูลค่านำเข้าส่งออกที่ด่านหนองคายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญหลังจากมีรถไฟลาว – จีนเกิดขึ้น ซึ่งเร็วกว่าช่องทางอื่น 1 วัน และมีค่าขนส่งถูกกว่าประมาณร้อยละ 25 และเมื่อสภาวะการณ์ของประเทศผ่านช่วงสถานการณ์โควิด-19 แล้ว คาดการณ์ว่ามูลค่าทางการค้าที่บริเวณด่านหนองคาย ผ่านโครงข่ายรถไฟไทย-ลาว-จีน จะสร้างมูลค่าทางการค้าเพิ่มขึ้น

สำหรับการขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟจีน-ลาว มายังไทยนั้นมีสินค้าหลายชนิด ได้แก่ ผักผลไม้สดแช่เย็น สิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์เครื่องจักร เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนรถยนต์ ยางพาราและไม้แปรรูป

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟจีน-ลาว มายังไทย นายอนุทิน ยังได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สภาพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมหารือเพื่อพิจารณาแผนการดำเนินการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน

นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามความก้าวหน้าสถานะการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดทำ Framework Agreement การขนส่งทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน โดยการเชื่อมต่อการเดินทางข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย – เวียงจันทน์ ซึ่งในการเจรจาระหว่างประเทศนั้น ให้ดำเนินการเจรจาบนพื้นฐานที่ไทย ลาว และจีนมีความเกี่ยวข้องและผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งอาจจะยกระดับให้เป็นบันทึกข้อตกลงที่มีความผูกพันเพิ่มเติม