“สุพัฒนพงษ์” ชง ครม.พรุ่งนี้ ต่ออายุลดภาษีดีเซล-ให้ส่วนลดค่าไฟ

ผู้ชมทั้งหมด 706 

“สุพัฒนพงษ์” ยัน กันงบกลางปี65/66 พร้อมบรรเทาผลกระทบราคาพลังงาแพง ชง ครม.พรุ่งนี้ (13 ก.ย.65) ขยายต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันได สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 301-500 หน่วย ขณะที่แนะภาคอุตสาหกรรม เร่งแผนประหยัด ลดต้นทุนการผลิตรักษาขีดความสามารถทางการแข่งขัน หลังรัฐควักกว่า 2 แสนล้านบาท

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวเปิดงานสัมมนาและปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทย ต่อวิกฤตพลังงานโลก” ในงานสัมมนาวิชาการประจำปี Energy Symposium 2022 โดยระบุว่า กระทรวงพลังงาน ได้ติดตามสถานการณ์พลังงานอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการราคาพลังงานที่ผันผวนทั้งจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน นโยบายลดกำหนดการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและโอเปกพลัส และ ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามการแก้ไขปัญหาราคาพลังงานที่สูงขึ้น ด้วยการประคับประคองราคาไม่ให้ปรับสูงขึ้นจนเกินไป ทั้งน้ำมันดีเซลที่ได้พยุงราคาให้อยู่ในระดับไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร โดยใช้การอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วกว่า 120,000 ล้านบาท รวมทั้งการลดภาษีสรรพสามิตเป็นการชั่วคราว

ด้านอัตราค่าไฟฟ้า ได้บริหารจัดการเชื้อเพลิงหันใช้เชื้อเพลิงที่มีต้นทุนถูกมาผลิตไฟฟ้าทดแทนในช่วงที่ราคาก๊าซธรรมชาติปรับสูงขึ้นมาก เพื่อดูแลค่าไฟฟ้าอัตโนมัตผันแปร(เอฟที) ไม่ให้ปรับขึ้นไม่เกินไป รวมถึงที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ประเทศไทย(กฟผ.) ยังได้เข้ามาร่วมแบกภาระค่าเชื้อเพลิง เพื่อชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงเกินไป เป็นภาระแล้วประมาณ 80,000-100,000 ล้านบาท ส่งผลให้ที่ผ่านมารัฐบาลใช้เงินประคับประคองราคาพลังงานไปแล้วรวมกว่า 200,000 กว่าล้านบาท

“ราคาน้ำมันของไทย ถือว่า แพงอยู่ในอันดับที่7-8 ของอาเซียน และราคาไฟฟ้า ก็แพงอยู่ในอันดับ 5-6 ของอาเซียน เราไม่ได้แพงที่สุด ก็อยู่ในระดับที่รักษาความสามารถการแข่งขันของประเทศได้”

ดังนั้น จะเห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้ประคับประคองต้นทุนราคพลังงานเพื่อลดผลกระทบในภาพของเศรษฐกิจแล้ว ฉะนั้น มาตรการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น ภาคอุตสาหกรรมไทย จะต้องใช้ความสำคัญกับมาตรการประหยัดพลังงาน เพื่อลดต้นทุนการผลิต พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการผลิต และเลือกใช้นวัตกรรมที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงต้องร่วมมืกับภาครัฐในการประหยัดการใช้พลังงานในบรรลุเป้าหมาย 20% ในปีนี้ ซึ่งการประหยัดพลังงานที่ลดลงก็เท่ากับเป็นการช่วยลดภาะการจ่ายค่าไฟฟ้าในถูกลง

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวอีกว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.2565) กระทรวงพลังงาน จะเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านพลังงาน ทั้งการขยายระยะเวลาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่อ จากปัจจุบันที่ปรับลดลง 5 บาทต่อลิตรที่จะสิ้นสุกลงในวันที่ 20 ก.ย.นี้ แต่จะขยายระยะเวลาออกไปเท่าไหร่และปรับลดลงกี่บาทนั้น ยังต้องรอความชัดเจนจากทางกระทรวงการคลัง

ส่วนมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าโดยให้ส่วนลดเป็นแบบขั้นบันได สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้า 301-500 หน่วยนั้น เป็นระยะเวลา 4 เดือน( ก.ย.-ธ.ค.65) วงเงินประมาณ 9,000 ล้านบาทนั้น จะเสนอครม.เพื่ออนุมัติ โดยในจัดเตรียมวงเงินซึ่งจะเป็นในส่วนของงบกลางปี 2565และ งบกลางปี 2566 ไว้รองรับแล้ว

ขณะที่มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดนั้น กระทรวงพลังงาน ได้เตรียมพร้อมที่จะออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า(PDP) ฉบับใหม่ที่จะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ ซึ่งทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดต่างๆ เพื่อรองรับการออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าในช่วงปลายปีนี้

อีกทั้งในส่วนของมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่สั่งการให้เร่งรัดเรื่องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อให้ภาคประชาชนประหยัดการใช้ไฟฟ้านั้น กระทรวงพลังงาน ได้เร่งหารือกับ กกพ. และ 3 การไฟฟ้า เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และดูการปลดล็อกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อเอื้อให้เกิดการติดตั้งได้ง่ายขึ้น รวมถึง จะต้องดูในเรื่องของมาตรการทางภาษีและสิทธิประโยชน์ BOI เข้ามาสนับสนุนผู้ประกอบการเพิ่มเติมด้วย