ผู้ชมทั้งหมด 1,850
“แอร์เอเชีย” เผย ส.สายการบินประเทศไทย เตรียมหารือรัฐบาลใหม่ช่วยลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน เสนอ 3 ข้อหนุนอุตสาหกรรมการบิน กระตุ้นท่องเที่ยว ขยายสิทธิการบินไทย–อินเดีย ให้จีนฟรีวีซ่าชั่วคราว 6 เดือน มั่นใจปีนี้ผลประกอบการโตแข็งแกร่ง รายได้ 4.2 หมื่นล้าน ผู้โดยสารทะลุ 20 ล้านคน
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า หลังจากจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ สมาคมสายการบินประเทศไทย เตรียมเข้าหารือกับกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง เพื่อเสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินไอพ่น จาก 4.726 บาทต่อลิตร โดยทางสมาคมฯ จะต้องหารือกันก่อนว่าจะต้องเสนอขอลดกี่บาท ซึ่งอาจจะขอลดลงครึ่งหนึ่ง หรือลดได้เท่าใดก็ต้องขึ้นอยู่กับกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังตัดสินใจ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการลดต้นทุนให้กับอุตสาหกรรมการบิน และลดภาระค่าตั๋วโดยสารให้กับประชาชน
พร้อมกันนี้ทางสายการบินไทยแอร์เอเชียยังเตรียมเสนอให้รัฐบาลใหม่เร่งดำเนินการใน 3 เรื่อง เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมการบินเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย 1.การสนับสนุนนโยบายและเเคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยต่อเนื่อง เช่น การออกเแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ลดต้นทุนการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว ภายในประเทศ หรือโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายเศรษฐกิจให้เติบโตทั่วภูมิภาค
2.การพิจารณายกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) เป็นการชั่วคราว (ระยะเวลา 6 เดือน) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อกระตุ้นให้มีการเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีค่าธรรมเนียม 2,000 บาทต่อคน และ 3.การขยายสิทธิการบิน การขนส่งอากาศไทย – อินเดีย ให้สามารถเพิ่มความถี่ในการขนส่งทางอากาศในตลาดเอเชียใต้ และ 6 เมืองหลักของอินเดีย ประกอบด้วย นิวเดลี มุมไบ บังกาลอร์ โกลกาตา เชนไน ไฮเดอราบาด ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวไทย
นายสันติสุข กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของปี 2566 ว่า ในครึ่งปีหลัง 2566 นี้เป็นโอกาสที่ดีของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเเละการบิน เนื่องจากธุรกิจเริ่มมีเสถียรภาพที่ชัดเจน สร้างผลกำไรเเละการดำเนินงานที่เป็นบวกต่อเนื่อง โดยภาพรวมทั้งปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 25-30 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 4-5 ล้านคน ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของแอร์เอเชียได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการขนส่งผู้โดยสารปี 2566 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 20 ล้านคน หลังจากในช่วงครึ่งปีเเรก 2566 มีการขนส่งผู้โดยสารไปแล้วกว่า 9.22 ล้านคน และคาดว่าอัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load factor) เฉลี่ยร้อยละ 89 ส่วนภาพรวมรายได้ปี 2566 ก็มั่นใจว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ 42,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามสำหรับแอร์เอเชียในช่วงที่ผ่านมาตลาดภายในประเทศเติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรก 2566 โดยไตรมาสที่ 2/2566 มีส่วนเเบ่งทางการตลาดสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 37 และคาดว่าจะสูงขึ้นแตะระดับร้อยละ 40 ในไตรมาสต่อไป ส่วนตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนเเละอินเดีย สามารถกลับมาให้บริการได้ครบทุกเส้นทางเเล้ว ในขณะที่ตลาดจีนยังทยอยกลับมาเติบโต ปัจจุบันทำการบินอยู่จำนวน 108 เส้นทางบิน กลับมาอยู่ในระดับร้อยละ 70 ของเส้นทางบินในช่วงก่อนโควิด – 19 โดยคาดว่าในไตรมาส 4/2566 จะสามารถกลับมาทำการบินได้ 138 เส้นทางบิน เท่ากับช่วงก่อนโควิด
พร้อมกันนี้แอร์เอเชียยังมีแผนเปิดเส้นทางบินจีนเพิ่มเติมไปยังซัวเถา และเพิ่มเส้นทางบินในอินเดียในช่วงครึ่งปีหลังนี้ นอกจากนี้ในปี 2567 ยังมีแผนเปิดเส้นทางบินในญี่ปุ่น 2 เส้นทาง คือ โอะกินะวะ ฮิโระชิมะ และจะกลับไปบินเส้นทางบินฮ่องกง มาเก๊า ให้ได้ตามที่เคยทำการบินในช่วงก่อนโควิด รวมทั้งยังมองโอกาสเปิดเส้นทางบินจากภูเก็ตไปออสเตรเลีย ซึ่งก็ต้องดูปริมาณเครื่องบินก่อน หากมีปริมาณเครื่องบินที่เพียงพอพร้อมเปิดเส้นทางบินออสเตรเลีย
ทั้งนี้ในปัจจุบันแอร์เอเชียมีเครื่องบินอยู่จำนวน 54 ลำ คาดเพียงพอต่อการให้บริการในปีนี้ แต่ก็ต้องรอดูว่าในช่วง 4 เดือนของปีนี้รัฐบาลใหม่มีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างไร หากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก สายการบินไทยแอร์เอเชียก็มีแผนนำเครื่องบินของกลุ่มแอร์เอเชียมาหมุนเวียนใช้งาน 5-7 ลำ เพื่อรองรับการเติบโตของผู้โดยสาร ส่วนในปี 2567 มีแผนเพิ่มฝูงบินอีกจำนวน 6 ลำ เป็น 60 ลำ ส่วนในปี 2568 เพิ่มเป็น 65 ลำ ปี 2569 เพิ่มเป็น 72 ลำ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องบินรุ่น แอร์บัส A321 เพิ่มโอกาสในการเปิดเส้นทางบินระยะไกล 5 – 8 ชั่วโมง