![]()
“อรรถพล” เยือนเขื่อนศรีนครินทร์ ดูพื้นที่ติดตั้งโครงการโซลาร์ลอยน้ำ เร่งกฟผ.ลงทุนเพิ่มอีก 3 เขื่อน รวม 1,638 เมกะวัตต์ เดินหน้าตามแผน PDP รวม 2,725 เมกะวัตต์ ภายในปี 73
วานนี้ (25 ตุลาคม 2568) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar) เขื่อนและโรงไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ณ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี โดยมี ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน นางพรรณวิภา ปิยัมปุตระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายนรินทร์ เผ่าวณิช รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ



นายอรรถพล กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar) ทั้ง 3 เขื่อนของ กฟผ. ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี กำลังผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ หรือ Net Zero ในปี 2050 ของประเทศไทย โดยจะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รวม 20.56 ล้านตัน ตลอดระยะเวลา 25 ปี ซึ่งขณะนี้ระยะที่ 1 ทั้ง 3 โครงการอยู่ระหว่างนำเสนอ ครม. อนุมัติโครงการ
สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ มีแผนดำเนินโครงการ 4 ระยะ กำลังผลิตรวม 770 เมกะวัตต์ โดยระยะที่ 1 มีกำลังผลิต 140 เมกะวัตต์ ครอบคลุมพื้นที่ผิวน้ำประมาณ 1,020 ไร่ ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิด Double Glass Monocrystalline Silicon PV กำลังผลิตไม่น้อยกว่า 650 วัตต์/แผง กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในปี 2570 ระยะที่ 2 กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ ระยะที่ 3 กำลังผลิต 280 เมกะวัตต์ และระยะที่ 4 กำลังผลิต 300 เมกะวัตต์



นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar) ในอีก 2 เขื่อนหลักของ กฟผ. ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล กำลังผลิต 778 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น ระยะที่ 1 กำลังผลิต 158 เมกะวัตต์ ระยะที่ 2 จำนวน 300 เมกะวัตต์ และระยะที่ 3 จำนวน 320 เมกะวัตต์ และเขื่อนวชิราลงกรณ กำลังผลิต 90 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นระยะที่ 1 กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ และระยะที่ 2 กำลังผลิต 40 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ตามแผน PDP2018 rev. 1 กำหนดให้ กฟผ. เป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar) จำนวน 6 เขื่อน 17 โครงการ กำลังผลิตรวม 2,725 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ถือเป็นส่วนสำคัญในการเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero เป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการวางแผงโซลาร์เซลล์บนพื้นที่ผิวน้ำในเขื่อนของ กฟผ. และใช้อุปกรณ์หลักร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่มีอยู่เดิม ช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้ค่าไฟฟ้ามีราคาต้นทุนที่เหมาะสม เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูงและผันผวน ช่วยสร้างความมั่นคงให้ระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศ โดยมีผลสำเร็จของโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี และเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ที่ดำเนินการไปแล้วและเห็นผลสำเร็จตามเป้าหมาย จึงมีการขยายผลไปยังเขื่อนต่างๆ ของ กฟผ. ที่มีศักยภาพ