ผู้ชมทั้งหมด 457
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ขอความร่วมมือประชาชนงดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอย โคมควัน ดอกไม้ไฟ แสงเลเซอร์ อากาศยานไร้คนขับ (Drone) หรือวัตถุอื่นใดที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยานในเขตโดยรอบสนามบินทั้ง 6 แห่งช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2565 เพื่อมิให้เกิดอันตรายต่ออากาศยาน ผู้โดยสาร และประชาชน ในช่วงเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2565 คือระหว่างวันที่ 8 – 9 พฤศจิกายน 2565 ในบางพื้นที่มักจะมีการจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอย โคมควัน
โดยในส่วนของ AOT ซึ่งบริหารสนามบินหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการปล่อยวัตถุอันตรายขึ้นสู่ท้องฟ้า เช่น การปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล บั้งไฟ ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง การปล่อยแสงเลเซอร์ และอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน และการมองเห็นของนักบิน โดยเฉพาะในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ (บริเวณสนามบินและโดยรอบสนามบิน) งเป็นไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 มาตรา 59/1 และ 59/2 โดยระบุการกำหนดโทษ คือ “มาตรา 59 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 109/1 มาตรา 109/2 และมาตรา 109/3 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497
มาตรา 109/1 ผู้ใดจุดและปล่อยหรือกระทำการใดเพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศซึ่งเป็นการรบกวนหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินอากาศหรือปฏิบัติการของอากาศยานภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 59/1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 109/2 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 59/2 หรือประกาศที่ผู้อำนวยการประกาศตามมาตรา 59/2 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 120,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 109/3 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศตามมาตรา 59/3 วรรคหนึ่งหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในมาตรา 59/3 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
รวมทั้ง พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 18 (2) ได้ระบุว่า ผู้ใดกระทำการให้อากาศยานในระหว่างบริการเสียหาย จนเป็นเหตุให้อากาศยานนั้นไม่สามารถทำการบินได้หรือเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างบิน ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 บาท ถึง 800,000 บาท
นอกจากนี้ ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เรื่อง การดำเนินกิจกรรมภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ พ.ศ.2563 ห้ามมิให้การปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน บั้งไฟ พลุ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศโดยเด็ดขาด รวมถึงห้ามปล่อยแสงเลเซอร์ในบางพื้นที่ และตามประกาศ กพท. เรื่อง แนวทางในการพิจารณาอนุญาตให้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร (ห้าไมล์ทะเล) จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ.2561 ซึ่งกำหนดให้ผู้บังคับหรือปล่อยโดรนต้องขออนุญาตจากผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมายก่อนทุกครั้งและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการปล่อยโคมลอยฯ ตรวจสอบรายละเอียดในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครหรือประกาศจังหวัดที่ต้องการจะปล่อย ซึ่งจะระบุรายละเอียดของพื้นที่ที่สามารถอนุญาตปล่อยได้ โดยในการจะปล่อยนั้นต้องดำเนินการขออนุญาตล่วงหน้าจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอในพื้นที่นั้นๆ ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
โดยในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับความนิยมในการปล่อยโคมลอยฯ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศไม่อนุญาตให้มีการจุดและปล่อยโคมลอยฯ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศและพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) อย่างเด็ดขาด ในพื้นที่ 6 อำเภอ คือ (1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทุกตำบล (2) อำเภอหางดง ทุกตำบล (3) อำเภอสารภี ใน 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลขัวมุง ดอนแก้ว ท่าวังตาล หนองผึ้ง และสันทราย (4) อำเภอแม่ริม ใน 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอนแก้ว ริมใต้ แม่สา เหมืองแก้ว และริมเหนือ (5) อำเภอสันทราย 1 ตำบล คือ ตำบลหนองหาร และ (6) อำเภอสันป่าตอง 1 ตำบล คือ ตำบลทุ่งต้อม
สำหรับพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ได้กำหนดระยะเวลาในการจุดหรือปล่อย คือ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงหรือยี่เป็ง ให้ปล่อยได้ในคืนวันลอยกระทงเล็กและวันลอยกระทงใหญ่ ระหว่างเวลา 19.00 – 01.00 น. ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 8 และ 9 พฤศจิกายน 2565 โดยต้องแจ้งขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน 30 วัน หลังจากได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ ต้องแจ้ง ทชม.หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ก่อน 14 วัน ซึ่งจะมีประกาศแจ้งเตือนผู้ทำการในอากาศ (Notice to Airmen: NOTAM) ให้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 8 – 9 พฤศจิกายน 2565 มีสายการบินต่างๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบิน เพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ จำนวน 77 เที่ยวบิน โดยมีเที่ยวบินยกเลิก 53 เที่ยวบิน เที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลา 24 เที่ยวบิน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565)
ส่วนจังหวัดเชียงรายได้มีประกาศกำหนดเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ได้แก่ ตำบลแม่ข้าวต้ม ตำบลนางแล ตำบลบ้านดู่ ตำบลริมกก ตำบลรอบเวียง ตำบลเวียง ตำบลสันทราย ตำบลท่าสาย ตำบลป่าอ้อดอนชัย ตำบลบัวสลี อำเภอเมืองเชียงราย ตำบลดงมหาวัน ตำบลเวียงเหนือ ตำบลเมืองชุม ตำบลเวียงชัย และอำเภอเวียงชัย ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 7 – 9 พฤศจิกายน 2565 ทชร.ได้รับความร่วมมือจากสายการบินพิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินจำนวน 10 เที่ยวบิน เพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565)
AOT และสนามบินทั้ง 6 แห่งได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของเครื่องบินและผู้โดยสารเป็นสำคัญ จึงได้รณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยฯ ให้ปลอดภัย โดยได้ลงพื้นที่ชุมชนโดยรอบสนามบินเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยฯ ในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งอันตรายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับอากาศยาน นอกจากนั้น ยังได้ร่วมส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทงโดยการจัดซุ้มถ่ายภาพ และตกแต่งพื้นที่สร้างบรรยากาศภายในอาคารผู้โดยสารต้อนรับผู้ใช้บริการด้วย