BPP ตั้งงบลงทุน 500-700 เหรียญสหรัฐฯ ใช้ลงทุนในช่วง 1-2 ปี ลุยซื้อกิจการไฟฟ้า

ผู้ชมทั้งหมด 503 

BPP ตั้งงบลงทุน 500-700 เหรียญสหรัฐฯ ใช้ลงทุนในระยะเวลา 1-2 ปี ลุยซื้อกิจการโรงไฟฟ้า – กิจการซื้อขายไฟฟ้า และพลังงานทดแทน มุ่งเน้นลงทุนใน 8 ประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ทำธุรกิจเสรีซื้อขายไฟฟ้า จับตาไตรมาส3/65 เตรียมปิดดีลพลังงานทดแทน 65 เมกะวัตต์ ในเวียดนามรับรู้รายได้ทันทีหนุนผลงานครึ่งปีหลัง 65 โตแกร่ง

นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการ M&A โครงการโรงไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มเติม ทั้งที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม และพลังงานหมุนเวียน โดยยังให้ความสำคัญลงทุนใน 8 ประเทศที่ BPP มีการลงทุนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม สปป.ลาว อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และไทย โดยเฉพาะการลงทุนในประเทศที่เปิดตลาดซื้อซื้อขายไฟฟ้าเสรี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้บริษัทฯ เมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในตลาดสูงขึ้น

สำหรับการขยายการลงทุนนั้นบริษัทฯ มีศักยภาพและมีความพร้อมเพียงพอ โดยปัจจุบันมีกระแสเงินสดในมือราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งการปิดดีล  M&A นั้น BPP เตรียมงบลงทุนไว้ราว 500 – 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับใช้ลงทุนในช่วง 1-2 ปี เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่เปิดดำเนินเชิงพาณิชย์แล้ว เพื่อให้สามารถรับรู้รายได้ได้ทันที โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2565 ใช้งบประมาณไปต่ำกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะในครึ่งปีหลัง 2565 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาลงทุน ซึ่งนอกจากเป็นการลงทุนต่อยอดในธุรกิจผลิตไฟฟ้า (Energy Generation) แล้วยังมองหาโอกาสลงทุนต่อยอดในธุรกิจตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีอีกด้วย  

อย่างไรก็ตามสำหรับในไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ เตรียมปิดดีลโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซูง็อก (Chu Ngoc) กำลังผลิต 15 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ฮาติ๋ญ (Ha Tinh) กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิต 65 เมกะวัตต์ ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2565 พร้อมรับรู้รายได้ทันที และยังมีที่อยู่ระหว่างการศึกษาอีก  2-3 โครงการก็ยังมีลุ้นปิดดีล M&A ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ด้วย เพื่อมุ่งสู่การเติบโตตามแผน 5,300 เมกะวัตต์ในปี 2568 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตในมือราว 3,272 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ BPP ยังจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์น็อนไห่ (Nhon Hai) กำลังผลิต 35 เมกะวัตต์ ประเทศเวียดนาม เนื่องจากเสร็จสิ้นกระบวนการซื้อขาย รวมถึงมีโอกาสในการเพิ่มเมกะวัตต์จากการดำเนินธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปตอบสนองนโยบายสนับสนุนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของรัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลเจิ้งติ้ง ในประเทศจีนอีกด้วย ดังนั้นผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2565 จึงมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565

ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานของ BPP ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ยังมีทิศทางที่ดีขึ้นจากครึ่งแรกของปี 2565 เนื่องจากรับรู้ได้จากรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศเวียดนามที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4/2565 คาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลหนาวจะส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าหงสา (HPC) ในปป.ลาว โรงไฟฟ้า BLCP คาดว่าจะมีค่าความพร้อมในการจ่ายไฟฟ้าสูงถึงร้อยละ 91 – 95 ซึ่งยังคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ สามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บ้านปู เพาเวอร์ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานผ่านการลงทุนในบ้านปู เน็กซ์ โดยล่าสุดได้ลงนามความร่วมมือกับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ และดูราเพาเวอร์ สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในไทย ตั้งเป้ากำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ภายในปี 2569