CAAT ชี้อุตสาหกรรมการบินหลังโควิด 19 กลับมาโตอีกครั้งในปี 67-68

ผู้ชมทั้งหมด 540 

CAAT ชี้อุตสาหกรรมการบินหลังโควิด 19 กลับมาโตอีกครั้งในปี 67-68 พร้อมเปิดแผนแม่บทโดรนสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและส่งเสริมให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) กล่าวแถลงข่าวในหัวข้อ“ปลุกชีพจรอุตสาหกรรมการบินของไทย รับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินหลังวิกฤตการณ์ Covid-19 ”ว่า อุตสาหกรรมการบินมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากเป็นกลไกสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ถือเป็นรายได้หลักของประเทศ ทั้งยังก่อให้เกิดรายได้จากการบริโภค การจ้างงาน การค้า และการลงทุน แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมการบินของของไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี

โดยเฉพาะในปี 2564 ที่มีจำนวนผู้โดยสารเพียง 20,926,173 คน คิดเป็นร้อยละ 35.92 จากสถิติของปี 2563 และจำนวนเที่ยวบินอยู่ที่ 257,948 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 51.54 จากสถิติของปี 2563 โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2562 จำนวนผู้โดยสารในปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 12.68 จากสถิติของปี 2562 และเที่ยวบินในปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 24.16 จากสถิติของปี 2562 ตามลำดับ แต่เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ สถานการณ์ด้านการบินก็กลับมาดีขึ้น โดยในปี 2565 มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 75,815,455 คน และเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น 570,360 เที่ยวบิน ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี โดยคาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารจากทั่วโลกจะฟื้นตัวและกลับมาเท่ากับปี 2562 ในช่วงปี 2567 – 2568

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า CAAT ได้จัดทำแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินปี 2565-2568 ภายใต้กรอบแนวคิดที่มุ่งเน้นให้อุตสาหกรรมการบินสามารถ “อยู่รอด เข้มแข็ง และยั่งยืน” โดยในปี 2566-2567 เป็นการดำเนินการในระยะกลาง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับ/เพิ่มประสิทธิภาพอุตสาหกรรมการบินภายใต้ยุทธศาสตร์ ระยะ 5 ปี ของ CAAT โดยเป้าหมายของปี 2566 คือ สามารถออกใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะเพิ่มอีก 8 สนามบิน มีระบบจัดการสิ่งแวดล้อมของสนามบิน (EMS) สามารถเข้ารับการตรวจประเมินจาก ICAO เพื่อยกระดับมาตรฐานของประเทศ

สำหรับการดำเนินงานด้านการวิจัย พัฒนา และแนวทางการบริหารจัดการการใช้งานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินหรือโดรน ปัจจุบันโดรนได้เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตหลากหลายด้านและคาดการณ์บทบาทในอนาคตที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโดรนเพื่อความบันเทิง โดรนเพื่อกู้ภัย โดรนเพื่อการเกษตร โดรนเพื่อการขนส่ง เป็นต้น โดยเฉพาะโดรนเพื่อการเกษตร ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2562 มีจำนวนผู้ขึ้นทะเบียนเพียง 328 ลำ และเพิ่มขึ้นเป็น 4,836 ลำในปี 2565 ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้น CAAT จึงได้จัดทำแผนแม่บทอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินเพื่อเป็นแผนหลักในการขับเคลื่อนระบบอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านห้วงอากาศ โครงสร้างพื้นฐานอากาศยาน สถาบันฝึกอบรม การซ่อมบำรุง เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและส่งเสริมให้กิจการอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินในประเทศเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป