ESSOแย้มQ1/64ยอดขายน้ำมันรวมโตกว่าQ1/63

ผู้ชมทั้งหมด 842 

ESSO แย้มไตรมาส 1/64 ยอดขายน้ำมันรวมเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาส 1/63 ที่อยู่ในระดับ 99,900 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่เดือน เม.ย.-พ.ค. ส่อแววหดตัว แต่มั่นใจครึ่งปีหลังยอดขายฟื้นหลังรัฐบาลประกาศเร่งฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ยันเดินหน้าลงทุนตามเป้าหมายด้วยงบลงทถน 1.2-1.5 พันล้านบาท พร้อมเร่งปรับปรุงโรงกลั่นสู่มาตรฐานยูโร 5

แหล่งข่าวจากบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ESSO เปิดเผยว่า ยอดขายน้ำมันรวมของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 1/2564 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าช่วงไตรมาส 1/2563 ที่มียอดขายน้ำมันรวมอยู่ที่ 99,900 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากเติบโตตามการขยายสถานีบริการน้ำมัน และตามเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วง 3 เดือนแรกยังไม่มีมาตรการการปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย (Work From Home) กรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 ระลอก3 ที่เพิ่งเริ่มในช่วงปลายเดือน มีนาคม 2564 อย่างไรก็ตามในช่วงเดือน เมษายน – พฤษภาคม 2564 ซึ่งอยู่ในช่วงไตรมาส 2/2564 ที่มีเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักก็อาจจะมีผลต่อยอดขาขน้ำมันรวมของ ESSO

อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 คาดว่าสถานการณ์แพร่รบาดของไวรัสโควิด- 19  จะเริ่มคลี่คลายดีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติที่จะเร่งฉีดวัคซีนให้คนไทย โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสให้ได้ 50 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่คาดว่าจะเริ่มเห็นฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 และเป็นปัจจัยหนุนต่อปริมาณการขายน้ำมันที่เติบโตตามตัวเลข GDP ของประเทศ ดังนั้นในแง่ของยอดขายน้ำมันรวมในปีนี้ ESSO ก็คาดว่าจะเติบโตดีกว่าปี 2563

ส่วนเป้าหมายการขยายสถานีบริการน้ำมันของปีนี้ยังคงตั้งเป้าที่ 30 สาขา แม้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะขยายไม่ถึง 10 สาขาก็ตาม แต่ก็เชื่อมั่นว่าหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายจะสามารถเร่งดำเนินการขยายให้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปี 2564 ESSO มีสถานีบริการน้ำมันเป็น 732 สาขา จากสิ้นปี 2563 อยู่ที่ 702 สาขา

ขณะเดียวกัน ESSO ก็มีเป้าหมายขยายร้านกาแฟภายใต้ชื่อ “ร้านกาแฟคอฟฟี่ เจอนี่” (Coffee Journey) ที่ร่วมมือกับบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยขยายภายในสถานีบริการน้ำมัน ESSO จำนวน 50 สาขา ซึ่งไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมาขยายไปแล้ว 11 สาขา

สำหรับเงินลงทุนแม้จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ระลอก 3 อย่างหนัก แต่บริษัทฯ ก็ยังดำเนินการลงทุนตามเป้าหมายเช่นเดิม ภายใต้งบลงทุนของปี 2564 ประมาณ 1,200-1,500 ล้านบาท สำหรับลงทุนขยายสถานีบริการน้ำมัน การซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์โรงกลั่น และการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันรองรับมาตรฐาน ยูโร 5 ซึ่งในปัจจุบันก็ได้ทยอยเริ่มดำเนินการปรับปรุงไปเรื่อยๆ เพื่อให้เสร็จทันตามเป้าหมายที่ภาครัฐประกาศให้ทุกโรงกลั่นน้ำมัน ต้องผลิตน้ำมันตามมาตรฐาน ยูโร 5 ในวันที่ 1 ม.ค. 67