ผู้ชมทั้งหมด 436
ปี 2566 เป็นปีที่ “กัมพูชา” จัดอีเว้นท์ใหญ่หลายงาน ทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ของกัมพูชาในเดือน พ.ค. และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ในเดือน มิ.ย. ตลอดจนการเลือกตั้งในเดือน ก.ค. รวมถึง แผนการเปิดใช้สนามบินเสียมราฐในต.ค. ขณะที่ กองทุนสำรองระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจกัมพูชา จะขยายตัว 5.8% ในปี 2566 ฟื้นตัวตามภาคการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศ โดยคาดหมายว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเยือนได้ 4 ล้านคนในปีนี้ ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นภาคการบริการของกัมพูชาในปีนี้
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2023/07/NPS_2275-copy-1024x681.jpg)
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ซึ่งมีฐานการลงทุนอยู่ในกันพูชา ผ่านบริษัทลูก คือ บริษัท ปตท. (กัมพูชา) จำกัด (PTTCL) ครอบคลุมธุรกิจทั้งด้านน้ำมันและการค้าปลีก ที่ตอบสนองความต้องการด้าน Lifestyle ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟ่ อเมซอน ร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งธุรกิจเสริมอื่นๆ ซึ่งเป็นพันธมิตรของ OR ผ่านช่องทางทั้งในและนอก พีทีที สเตชั่น นอกจากนี้ ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้าตลาดพาณิชย์ ทั้งกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์และกลุ่มค้าส่งน้ำมัน การจำหน่ายน้ำมันอากาศยานให้กับสายการบิน รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants OR เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในกัมพูชา โดยมีแผนที่จะขยายตลาดอื่นๆในอนาคต เช่น LPG และยางมะตอย เป็นต้น
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2023/07/S__8511732-1024x683.jpg)
ดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ระบุว่า การขยายฐานธุรกิจเพื่อสร้างความสำเร็จและการยอมรับในตลาดโลก (Global Market) นับเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของ OR จากพันธ์กิจทั้งหมด 4 ด้าน คือ Seamless Mobility, All Lifestyles, Global Market และ OR Innovation ซึ่งมุ่งดำเนิน ธุรกิจผ่านวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน
โดย OR เล็งเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจในสายงานต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจ Mobility กลุ่มธุรกิจ Lifestyle และธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งล้วนเป็นทรัพยากรที่สำคัญของ OR ในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมแนวคิด นโยบาย และกลยุทธ์ในการดำเนินงาน ให้กับธุรกิจต่างประเทศ ผ่าน OR SDG หรือ SDG ในแบบฉบับของ OR เพื่อให้สอดรับกับแนวทางการขยาย Global Portfolio ทั้งด้าน S -SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก D – DIVERSIFIEDโอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ และ G – GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาด โดยตลาดหลักของธุรกิจต่างประเทศที่ OR มุ่งให้ความสำคัญ ได้แก่ ก้มพูชา สปป. ลาว และฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ OR ต่อยอดรูปเเบบทางธุรกิจจากความสำเร็จในประเทศสู่เวทีนานาชาติด้วยการผสมผสานกลุ่มธุรกิจ Mobllity กลุ่มธุรกิจ Lifestyle และธุรกิจอื่น ๆ ให้เป็นรูปแบบทางธุรกิจที่สนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างลงตัว เพื่อใช้เป็นต้นแบบในการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากล
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2023/07/NPS_2309-copy-1024x681.jpg)
“การขยาย Global Portfolio ของ OR และการมุ่งสร้างความแข็งแรงทางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับการขยายตัว ทางธุรกิจ Mobility อย่างยั่งยืนต่อไป” ดิษทัต กล่าว
เมื่อเร็วๆนี้ PTTCL ยังได้ต่อยอดขยายธุรกิจในกัมพูชา โดยจับมือกับ บริษัท เค-เน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (KNX) เข้าร่วมพิธีลงนามในสัญญามอบสิทธิ Single Unit Franchise ธุรกิจ “อ๊อตเทริ วอชแอนด์ดราย” (Otteri Wash & Dry) ในประเทศกัมพูชาและร่วมเปิดร้านสะดวกซัก “อ๊อตเทริ วอชแอนด์ดราย” สาขาแรกอย่างเป็นทางการ ในสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น Chbar Ampov ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยธุรกิจดังกล่าวมุ่งเน้นการนำเสนอบริการร้านสะดวกซักรูปแบบเดียวกับในประเทศไทยเพื่อให้ผู้บริโภคในกัมพูชาได้เข้าถึงการบริการซักผ้าและอบผ้าในรูปแบบการบริการตนเอง (Self-service) ขณะเดียวกัน PTTCL ยังมีแผนการขยายสาขาร้านสะดวกซัก “อ๊อตเทริ วอชแอนด์ดราย” จำนวน 3 สาขา ในประเทศกัมพูชา ภายในปี2566
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2023/07/S__9060367-1024x681-1.jpg)
โดย KNX เป็นบริษัทที่ OR เข้าลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 40% ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าแบบอุตสาหกรรม รวมถึงประกอบกิจการร้านสะดวกซัก ภายใต้แบรนด์ชื่อ “อ๊อตเทริ วอชแอนด์ดราย” และเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของไทยที่ปัจจุบันมีจำนวนสาขากว่า 950 แห่งทั่วประเทศไทย ด้วยเล็งเห็นถึงโอกาสในการบุกเบิกตลาดร้านสะดวกซักในประเทศกัมพูชา
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2023/07/S__9150573-942x1024.jpg)
ณัฐพงศ์ แก้งตระกูลพงษ์ Managing Director บริษัท ปตท. (กัมพูชา) จำกัด (PTTCL) ระบุว่า กัมพูชา ถือเป็นประเทศยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญเพื่อสร้างรายได้ของ OR ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 รองจากประเทศไทย โดย PTTCL ดำเนินธุรกิจ Mobility และธุรกิจ Lifestyle ในประเทศกัมพูชา ภายใต้แบรนด์ของ OR มีจำนวน พีทีที สเตชั่น 163 สถานี ร้านคาเฟ่ อเมซอน 229 สาขา ร้อนสะดวกซื้อ 68 สาขา และ FIT Auto 1 สาขา (ข้อมูล ณ 31 มีนาคม 2566)
สำหรับทิศทางการดำเนินงานของ OR ในปี 2566 ยังเดินหน้าสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์การลงทุนช่วง 5ปี (2566-2570) ที่ใช้งบลงทุน 1.1 แสนล้านบาท และปี 2566 จะใช้งบลงทุน ประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจ Lifestyles สัดส่วน 45% หรือ จำนวน 14,193 ล้านบาทธุรกิจMobility สัดส่วน 22% หรือ จำนวน 6,799 ล้านบาทธุรกิจ Global Market สัดส่วน 16% หรือ จำนวน 4,954 ล้านบาท และธุรกิจ Innovation สัดส่วน 17% หรือจำนวน 5,251 ล้านบาท โดย OR จะมุ่งเน้นการเติบโตร่วมกับพันธมิตรพร้อมตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากความร่วมมือในการทำธุรกิจราว 50%
โดยปีนี้ จะขยายธุรกิจในต่างประเทศ จะเน้นการเจาะตลาดในกัมพูชามากขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเติบโตขึ้น 6.2% จากปีก่อน เติบโต 5.1% และกัมพูชา เป็นประเทศที่ไม่มีโรงกลั่นน้ำมัน จึงจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมัน จึงเป็นโอกาสของ OR ทั้งการเจาะตลาดจะเน้นทั้ง ธุรกิจ Mobility และธุรกิจ Lifestyle
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2023/07/NPS_1074-copy-1024x681.jpg)
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2023/07/NPS_1110-copy-1024x681.jpg)
อย่างไรก็ตาม การลงทุนของ OR ยังต้องจับตาสถานการณ์การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อาจจะกระทบการส่งออก และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ อีกทั้งต้องจับตาผลกระทบเงินเฟ้อ ต่อความสามารถในการชำระหนี้โดยเฉพาะหนี้ภาคเอกชนท่ามกลางภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้น ตลอดจนการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูง ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินผันผวนมากขึ้น