OR จ่อปิดดีล ‘JV-M&A’ ปีนี้เพิ่ม 3-4 ราย

ผู้ชมทั้งหมด 1,229 

โออาร์ ตั้งงบลงทุน 5 ปี 93,500 ล้านบาท ลุยขยายลงทุนเพิ่มสัดส่วน EBITDA ธุรกิจไลฟ์สไตล์และต่างประเทศ เล็งปิดดีล JV และ M&A ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและท่องเที่ยว 3-4 ดีลในปีนี้ คาดผลการดำเนินงานปี65 โตต่อเนื่องจากปี64 เหตุราคาน้ำมันดิบหนุน เศรษฐกิจโตช่วยกระตุ้นดีมานด์กลุ่มน้ำมันและรีเทล

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 2565 ของ OR ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยมุ่งสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตร่วมกับสังคมชุมชน (People) และสิ่งแวดล้อม (Planet) ควบคู่ไปกับผลการดำเนินงาน (Performance) โดยการใช้จุดแข็งด้าน Physical Platform อาทิ PTT Station ร้าน Cafe Amazon ในทำเลที่มีศักยภาพทั่วประเทศและในต่างประเทศ ควบคู่กับ Digital Platform เช่น ระบบ Loyalty Program การชำระเงินผ่าน Digital Payment รวมกับความเชี่ยวชาญด้านการตลาด การบริหารงานอย่างมืออาชีพ และความเชื่อถือทั้งจากคู่ค้าและลูกค้าที่มีต่อ OR มาอย่างยาวนาน เพื่อส่งต่อโอกาสให้กับผู้ประกอบการในทุกขนาดเติบโตไปพร้อมกัน (Inclusive Growth)

สำหรับกลุ่มธุรกิจ Mobility จะมุ่งรักษาสถานะความเป็นผู้นำในประเทศไทยในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน และขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจไปเป็นธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน (Energy Solution Ecosystem) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคโดยมุ่งเน้นสู่การใช้พลังงานสะอาด

ส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มุ่งรักษาความเป็นผู้นำในตลาดร้านกาแฟ รวมทั้งแสวงหาพันธมิตรธุรกิจใหม่ ๆ รวมถึง Start-up ที่มีศักยภาพในการเติบโตและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ OR เพื่อสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

และกลุ่มธุรกิจ Global มุ่งขยายฐานการดำเนินธุรกิจสู่ตลาดโลก โดยใช้ประโยชน์จากแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับ ความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจของ OR ผสมผสานและปรับผลิตภัณฑ์ของ OR ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแต่ละประเทศ (Localization) และสำหรับกลุ่มธุรกิจ OR Innovation OR มุ่งเน้นการสร้างธุรกิจที่แก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยใช้ศักยภาพที่ OR มีอยู่ร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ ในการร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อสร้างตลาดใหม่และธุรกิจใหม่ เพื่อยกระดับสู่นวัตกรรมในแบบฉบับ OR (OR Innovation) ซึ่งจะทำให้ OR เติบโตไปพร้อมกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

“OR จะเดินหน้าการลงทุนตามแผน 5ปี (2565-2569)ที่ใช้งบ 93,500 ล้านบาท เพื่อปรับพอร์ต EBITDA ในส่วนของ กลุ่มธุรกิจ Lifestyle จาก 21% เป็น 39% และกลุ่มธุรกิจ Global เป็น 15% ส่วนกลุ่มธุรกิจ Mobility จาก 76% จะเหลือ 45% โดยจะเน้นการหาพันธมิตรร่วมลงทุน(JV) และการควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการ(M&A) ซึ่งขณะนี้มีเจรจาหลายดีล คาดว่า ในปีนี้ จะปิดได้ 3-4 ดีล ในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และท่องเที่ยว”

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565 คาดว่า จะเติบโตขึ้นจากปี 2564 จากปัจจัยสนับสนุนการเปิดประเทศทั่วในระดับนอกประเทศและในประเทศ แม้ว่าโควิด-19 จะยังมีอยู่แต่ก็สามารถบริหารจัดการได้ดีขึ้นจากการที่ประชาชนได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ จะเติบโตขึ้นจากปีก่อน โดยธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่า GDP ปี2565 จะอยู่ที่ 3.5-4.5% ซึ่งจะหนุนกำลังซื้อของผู้บริโภคทั้งในกลุ่มน้ำมันและไลฟ์สไตล์ อีกทั้ง OR คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยอยู่ที่ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงกว่าปี 2564 จะช่วยหนุนมาร์จิน แม้ว่าภาครัฐจะปรับลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร และส่งผลกระทบให้ OR ขาดทุนจากการสต็อกน้ำมันทันทีราว 200 ล้านบาท แต่ในระยะยาวคาดว่าจะส่งผลดีต่อค่าการตลาด เนื่องจาก OR มีสัดส่วนของส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ของน้ำมันดีเซล อยู่ที่ราว 37% เป็นอันดับ 1 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดขายจากการชะลอรับราคาขายปลีก  

นอกจากนี้ ในปีนี้ คาดว่า ผลจากการที่ OR ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรร่วมลงทุน(JV) และการควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการ(M&A) กับหลายบริษัทในกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ในปีที่ผ่านมา จะทำให้ปีนี้ เป็นปีแรกที่ OR เริ่มรับรู้รายได้ ขณะที่การเข้าลงทุนใน 3 โรงงาน ได้แก่ การเปิดดำเนินการศูนย์กระจายสินค้าสำหรับธุรกิจค้าปลีก โรงงานผลิตผงผสมเครื่องดื่ม Café Amazon และโรงงานผลิตเบเกอรี่ Café Amazon ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจในกลางปีที่ผ่านมา จะทำให้ OR ประหยัดต้นทุนลงได้ราว 200 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ ในปี 2565 OR ตั้งเป้าหมายจะเปิดปั๊มน้ำมัน พีทีที สเตชั่น อีก 129 สาขา และEV station Pluz อีก 200 แห่งในปั๊มพีทีที สเตชั่น และนอกปั๊ม อีก 150 แห่ง ขณะที่ร้านคาเฟ่ อเมซอน เปิดเพิ่ม 389 แห่ง และร้านเท็กซัส ชิคเก้น อีก 20 แห่ง ส่วนต่างประเทศ ปีนี้ จะเปิดปั๊มฯ อีก 73 แห่ง และร้านคาเฟ่ อเมซอน เปิดเพิ่ม 129 แห่ง จากสิ้นปี 2564 OR มีปั๊มฯ อยู่ที่ 2,439 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 2,080 แห่ง ต่างประเทศ 359 แห่ง และร้านคาเฟ่ อเมซอน อยู่ที่ 3,931 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 3,607 แห่ง และต่างประเทศ 324 แห่ง