PTC เตรียมเทรดตลาด เอ็ม เอ ไอ ไตรมาส 1 ปี65

ผู้ชมทั้งหมด 853 

“พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น” พร้อมระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาส 1 ปี65 นำเงินขยายธุรกิจให้บริการจ่ายน้ำมัน เพิ่มฐานลูกค้า เชื่อมโยงด้านระบบการขนส่งน้ำมัน เพื่อให้ทุกพื้นที่เข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียม

นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC ผู้ประกอบธุรกิจคลังน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรับ เก็บ ผสม และจ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินและขีดความสามารถขยายธุรกิจ เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานเชื้อเพลิงให้กับประเทศ มุ่งสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เสริมความเชื่อมโยงด้านระบบการขนส่งพลังงาน เพื่อให้ทุกพื้นที่มีโอกาสเข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียมกัน 

ทั้งนี้ PTC มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน คือ 1. การเพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-จ่ายน้ำมัน รองรับวิธีการขนส่งน้ำมันที่หลากหลาย และเพิ่มจำนวนสถานีบริการที่มารับน้ำมันจากคลังของบริษัทฯ 2. มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบพลังงานเพื่อให้ทุกพื้นที่ มีโอกาสเข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียมกัน และ 3. สร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ และพันธกิจ เพื่อกระจายฐานรายได้ และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง

โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างวางแผนขยายตลาดเพื่อแสวงหาลูกค้าในกลุ่มสถานีบริการน้ำมันรายใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยใช้บริการรับน้ำมันจากคลังของบริษัทฯ หรือเข้ามารับในปริมาณไม่มาก เพื่อลดผลกระทบจากการสูญเสียลูกค้าและสร้างการเติบโตในอนาคต

นางสาวพัทธยา  โง้วสกุล ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการที่มีบทบาทสำคัญในการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วทั้งภาคอีสาน โดยมีลักษณะการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย 1. บริการรับ เก็บ และจ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปประเภทเบนซินและดีเซล ให้บริการที่คลังน้ำมันจำนวน 2 แห่ง คือ คลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดขอนแก่น (“คลังขอนแก่น”) ตั้งอยู่ใน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีขนาดพื้นที่คลังประมาณ 37 ไร่ มุ่งเน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเป็นหลัก ปัจจุบัน มีถังเก็บน้ำมันเพื่อให้บริการจำนวน 10 ถัง ปริมาตรรวมประมาณ 9.0 ล้านลิตร สามารถรองรับการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงได้หลากหลายประเภทตามความต้องการที่มีในประเทศไทย โดยคลังน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวมีความสามารถรับและจ่ายน้ำมันได้สูงสุดประมาณปีละ 1,400 ล้านลิตร และ 1,400  ล้านลิตร ตามลำดับ คิดเป็นการจ่ายน้ำมันให้แก่รถบรรทุกน้ำมันได้ประมาณ 296 คัน/วัน สำหรับรถบรรทุกน้ำมันขนาด 16,000 ลิตร

และคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดศรีสะเกษ  (“คลังศรีสะเกษ”) ตั้งอยู่บน ถนนศรีสะเกษ – อุบลราชธานี อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ มีขนาดพื้นที่คลังประมาณ 74 ไร่ มุ่งเน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าหลักในจังหวัดต่างๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ปัจจุบัน มีถังเก็บน้ำมัน 10 ถัง ปริมาตรรวมประมาณ 9.70 ล้านลิตร สามารถรองรับการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป น้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐาน และน้ำมันชีวภาพได้หลากหลายประเภท โดยสามารถรับและจ่ายน้ำมันได้สูงสุดประมาณปีละ 830 ล้านลิตร และ 770 ล้านลิตร ตามลำดับ คิดเป็นการจ่ายน้ำมันให้แก่รถบรรทุกน้ำมันประมาณ 152 คัน/วัน สำหรับรถบรรทุกน้ำมันขนาด 16,000 ลิตร

และ 2.บริการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐานตามสูตร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปตามที่ลูกค้าต้องการ ให้บริการที่คลังศรีสะเกษ ด้วยการเพิ่มบริการการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงแบบอินไลน์ (Inline Fuel Blending) ในกระบวนการให้บริการ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถให้บริการแก่สถานีบริการน้ำมันภายใต้เครื่องหมายการค้าของผู้ค้าน้ำมันได้หลายราย และกลายเป็นผู้ให้บริการจ่ายน้ำมันที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน-ล่าง

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบธุรกิจ 166.29 ล้านบาท ลดลง 11.13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงตามยอดจำหน่ายน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงมีโรงงานบางส่วนหยุดการผลิต ทำให้การเดินทางโดยรถยนต์ลดลง ทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 72.23 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.98% อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกปี 2564 ปรับตัวดีขึ้นเป็น 43.33% สูงกว่างวด 9 เดือนแรกของปี 2563  เนื่องจากสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

นอกจากนี้ PTC มีแผนที่จะก่อสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังศรีสะเกษ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในด้านการลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันของลูกค้า ด้วยการเพิ่มช่องทางการขนส่งน้ำมันให้แก่ลูกค้า นอกเหนือจากการให้บริการการรับน้ำมันทางรถบรรทุกเพียงทางเดียว เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

นางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า ปัจจุบัน บมจ.พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น มีทุนจดทะเบียน 205 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนเรียกชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.83 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท

โดยภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการลงทุนและชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยคาดว่าจะนำ PTC จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาสแรกปีนี้