PTTผนึกNTวางกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้า

ผู้ชมทั้งหมด 464 

PTTผนึกโทรคมนาคมแห่งชาติ วางกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระดับสากล

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจเพื่อส่งเสริมการใช้และให้บริการยานยนต์ไฟฟ้ากับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เพื่อวางกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน รวมถึงต่อยอดเทคโนโลยีการสื่อสารและดิจิทัลสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์การให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ  ส่งเสริมและสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ ส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระดับสากลมากยิ่งขึ้น

“สำหรับความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้  ปตท. นำเอาความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพลังงาน ตลอดจนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจการสื่อสารและดิจิทัลของโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า ในรูปแบบที่มีจุดแข็งและมีความโดดเด่น ตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ด้วยทางเลือกของบริการที่หลากหลาย   อันจะนำไปสู่การสร้างอนาคตแห่งการเดินทางด้วยยานยนต์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สนับสนุนได้ทั้งความมั่นคงทางพลังงานและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน” นายอรรถพลกล่าว

นาวาอากาศเอก สมศักดิ์  ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า ความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจเพื่อส่งเสริมการใช้และให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า ของทั้ง 2 หน่วยงานในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ มีการทดสอบตลาดและศึกษาความต้องการของลูกค้า การออกแบบทางธุรกิจ การศึกษาความคุ้มทุนในการลงทุน การพัฒนาด้าน IoT และ Application ต่าง ๆ ระบบการให้บริการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่นการติดตาม การจัดเก็บข้อมูล การชำระค่าบริการ และเพื่อสร้างความร่วมมือด้านธุรกิจร่วมกันต่อไป

โดย NT มีโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านสื่อสาร เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึง การนำเทคโนโลยี 5G ที่ NT มีคลื่นความถี่ที่พร้อมตอบสนองความต้องการใช้ในทุกรูปแบบมาประยุกต์ใช้ด้วย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนรูปแบบการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ ของ ปตท. และ NT ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่  โอกาสในการนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของ NT ในธุรกิจสื่อสารและดิจิทัล มาใช้ในการพัฒนารูปแบบการใช้บริการยานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นด้าน Charger และด้านการบริหารจัดการระบบรถส่วนกลาง (Fleet Management) ซึ่งระบบบริหารจัดการของยานพาหนะในธุรกิจเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและสร้างจุดแข็งทางธุรกิจที่ช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินงาน ทั้งด้านการบริหารจัดการและด้านความปลอดภัย      

อย่างไรก็ตามความร่วมมือในครั้งนี้จะนำไปสู่การต่อยอดในการสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงด้านการสื่อสารและดิจิทัลและอุตสาหกรรมด้านยานยนต์ในอนาคตให้กับทั้งสององค์กรร่วมกันและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน และประเทศชาติเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจด้านพลังงาน และเทคโนโลยีดิจิทัลต่อไป