TOP โชว์ผลงานไตรมาส 3 กำไรพุ่ง 188.5%

ผู้ชมทั้งหมด 746 

TOP โชว์ผลงานไตรมาส 3 มีกำไร 2.06 พันล้าน เพิ่มขึ้น 188.5% รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันพุ่ง หนุนมีกำไรสต๊อกน้ำมัน ส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวดีขึ้น ราคาผลิตภัณฑ์ดีตามความต้องการใช้น้ำมัน หลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/ 2564 มีกำไรสุทธิ 2,062.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,348 ล้านบาท หรือคิดเป็น 188.5%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 715.28 ล้านบาท และมีรายได้จาการขายอยู่ที่ 79,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,843 ล้านบาทเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่เริ่มฟื้นตัวหลังจากประชากรโลกได้รับการฉีดวัคซีน และหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ประกอบกับอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวจากสถานการณ์พายุเฮอริเคนไอดา อีกทั้งราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3/2564 ส่งผลให้ไทยออยล์มีกำไรตากสต๊อกน้ำมันที่ 3,915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132 ล้านบาทจากไตรมาส 2/2564 และมีกำไรขั้นต้นจาการผลิตของกลุ่มรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันอยู่ที่ 10.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  

นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากระดับราคาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาและยุโรป โดยมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันอยู่ที่ 5.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากกำไรขั้นต้นจากการกลั่นที่เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวดีขึ้นตามความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น หลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ 

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาดปรับตัวดีขึ้นจากอุปทานที่ตึงตัวจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงผลิตสาร LBA ในประเทศจีน และอินเดีย ด้านตลาดสารอะโรเมติกส์ ส่วนต่างราคาสารพาราไซลีนกับน้ำมันเบนซิน 95 ได้รับแรงหนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและอุปทานที่ตึงตัว แต่ส่วนต่างราคาสารเบนซินกับน้ำมันเบนซิน 95 ได้รับแรงกดดันจากการควบคุมการใช้ไฟฟ้าในจีนหลังประสบปัญหาขาดแคลนถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า

สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน 2564 TOP มีรายได้จากการขาย 231,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48,598 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 7,545.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 10,558.83 ล้านบาท และมี EBITDA 22,060 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุน EBITDA 5,549 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563

อย่างไรก็ตาม TOP มีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงิน 2,256 ล้านบาท และมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 5,118 ล้านบาทจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ เมื่อหักทุนทางการเงิน 2,637 ล้านบาท ซึ่งลดลง 616 ล้านบาทจากการรวมต้นทุนการกู้ยืมเป็นส่วนหนึ่งของราคาทุนของสินทรัพย์ ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว