UBEรุกขยายธุรกิจเกษตรอินทรีย์เพิ่มแบรด์สินค้าออร์แกนิค

ผู้ชมทั้งหมด 621 

UBE พร้อมระดมในตลาดเร็วๆนี้ หลังก.ล.ต.ไฟเขียว ลุยต่อยอดธุรกิจเกษตรอินทรีย์-แป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค เพิ่มแบรด์สินค้าเพื่อสุขภาพ เล็งตั้งโรงงานผลิตน้ำเชื่อมไซรัป ขณะที่ธุรกิจเอทานอลเตรียมขยายกำลังการผลิตเป็น146ล้านลิตรต่อปี  

นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE เปิดเผยว่า ความคืบหน้าแผนการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นจากที่บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว หลังจากนี้ก็จะเดินหน้าในขั้นตอนกำหนดราคาซื้อขาย กำหนดวันเสนอขายหุ้น IPO และวันเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่อไปคาดว่าจะสามารถเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในครึ่งปีหลังนี้

อย่างไรก็ตามในการระดมทุนครั้งนี้เพื่อขยายการลงทุนตามแผน 5 ปี (2564-2568) สำหรับการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจของ UBE ประกอบด้วย 1.ธุรกิจผลิตเอทานอลที่เป็นธุรกิจหลักในปัจจุบัน โดยมีกำลังการผลิตรวม 400,000 ลิตรต่อวัน ซึ่งสามารถผลิตเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงราว 130 ล้านลิตรต่อปี และผลิตเอทานอลเกรดอุตสาหกรรมที่ใช้ทางการแพยท์ และทำความสะอาดประมาณ 8 ล้านลิตรต่อปี

โดยเอทานอลกลุ่มเชื้อเพลิงมีแผนลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 146 ล้านลิตรต่อปี เพื่อรองรับความต้องการใช้ในอนาคต ส่วนเอทานอลกลุ่มอุตสาหกรรมต้องรอดูความชัดเจนของกฎหมายก่อนว่าภาครัฐจะแก้กฎหมายเปิดเสรีการผลิตและจำหน่ายหรือไม่ จากปัจจุบันรัฐอนุญาตให้สามารถผลิตและจำหน่ายได้ในระยะ 2 ปีเริ่มตั้งแต่ปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ 2.ธุรกิจแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคในระยะ 5 ปีมีแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้นจาก 30,000 ตันเป็น 100,000 ตันต่อปี ซึ่งการลงทุนการขยายกำลังการผลิตนั้นจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ส่วนแป้งมันสำปะหลังธรรมดากำลังการผลิตจะเหลือเพียง 50,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิคมากขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้แล้วยังมีแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์แป้งฟลาวมันสำปะหลังออร์แกนิคเพิ่มมาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแป้งมันสำหรับทำขนม ทำเส้นบะหมี่ แป้งทำเกี๊ยวซ่า แป้งสำหรับชุบทอด ก็จะทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเรื่อยๆ จากปัจจุบันนั้นแป้งฟลาวมันสำปะหลังออร์แกนิคมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “Tasuko” และ “Savvy” ซึ่งสามารถใช้ทดแทนแป้งสาลีได้ โดยตลาดส่วนใหญ่ในปัจจุบันกว่า 90% เน้นการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา และยุโรป ส่วนในเอเชียเพิ่งเริ่มขยายส่งออกไปยังประเทศจีน อย่างไรก็ตามในอนาคตจะทำตลาดในประเทศเพิ่มมากขึ้น เพราะคนเริ่มให้มาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำเชื่อมไซรับออร์แกนิค เพิ่มเติม เพื่อรองรับตลาดกลุ่มรักสุขภาพ ซึ่งมีแนวโน้มขยายตวเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ปลายปี 2564 แล้วเสร็จต้นปี 2566

ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ 3.ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ โดยปัจจุบันมีการผลิตและจำหน่ายสินค้ากาแฟ และข้าวที่ได้รับมาตรฐานออร์แกนิคสากล ซึ่งส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยุโรปเป็นหลัก อย่างไรก็ตามในปี 2565 จะนำกาแฟ และข้าวมาพัฒนาต่อยอดเป็นแบรนด์ของตัวเองในกลุ่มสินค้า Retail ที่เป็นออร์แกนิค ซึ่งนอกจากจะส่งออกไปต่างประเทศแล้วจะทำตลาดในประเทศด้วย

ทั้งนี้การขยายลงทุนในธุรกิจเกษตรอินทรีย์นั้นปัจจุบันบริษัทฯ มีพื้นที่เกษตรของตัวเองอยู่ราว 7,395 ไร่ และมีเครือข่ายเกษตรกรในรูปแบบ Contract farming 100% พื้นที่จ.อุบลราชธานี ซึ่งภายหลังจากระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็มีแผนจะขยายพื้นที่เกษตรเพิ่มเป็น 10,000 ไร่ ภายใน 5 ปี

อย่างไรก็ตามการขยายการลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะเน้นการลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค และเกษตรอินทรีย์มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค และเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นเป็น 70% และกลุ่มธุรกิจเอทานอลจะเป็น 30%