WHAUP มั่นใจกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนปีนี้ทะลุเป้า 300 MW

ผู้ชมทั้งหมด 328 

WHAUP คาด ผลการดำเนินงานปี66 โตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เหตุธุรกิจไฟฟ้ามาร์จิ้นดีขึ้นทั้งโครงการSPP หนุน ขณะที่กำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทะลุเป้า 300 เมกะวัตต์สิ้นปีนี้ พร้อมเล็งขยายลงทุนในเวียดนามและเอเชีย ด้านธุรกิจสาธารณูปโภค ยังขยายตัวตามยอดขายที่ดินของ WHA Group

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) WHAUP เปิดเผยในงาน Oppday Q1/2023 บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) WHAUP เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2566 โดยระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 คาดว่า จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปีนี้ ที่มีรายได้ อยู่ที่639.7 ล้านบาท และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 257.4 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของธุรกิจไฟฟ้าทั้งโครงการ IPP และ SPP ซึ่งในส่วนของ IPP โครงการ GHECO-One ได้กลับมาเดินเครื่องตามปกติ หลังจากปิดซ่อมบำรุงใหญ่ประมาณ 54 วันในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ในส่วนของค่าความพร้อมจ่ายหรือ AP เข้ามาเสริมในปีนี้ ส่วนการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ SPP แม้ว่าการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าใน 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะมีแนวโน้มปรับลดลงจากนโยบายเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใหม่ แต่ในส่วนของต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง ก็น่าจะทำให้ส่วนต่าง(สเปรด)ดีขึ้น และมาร์จิ้นทั้งปีนี้น่าจะดีขึ้น

ขณะที่ในส่วนของการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน คาดว่า สิ้นปีนี้จะมียอดกำลังการผลิตเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 300 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 152 เมกะวัตต์ เมื่อรวมกับช่วงไตรมาส1 ที่ผ่านมาที่เซ็นสัญญาโครงการโซลาร์รูฟท็อปไปอีก 16 เมกะวัตต์ และเมื่อร่วมกับ 5 โครงการพลังงานหมุนเวียน ที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการฯจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) อีก 125.4 เมกะวัตต์ จะรวมเป็นราว 270 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างเจรจาในต่างประเทศอีก เช่น ในเวียดนาม และแถบเอเชีย ก็คาดว่า สิ้นปีนี้จะบรรลุเป้าหมายอย่างแน่นอน

“ธุรกิจไฟฟ้า ณ สิ้นปี 2565 มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 644 เมกะวัตต์ ไตรมาส 1ปีนี้ ก็มียอดอยู่เท่าเดิม แต่มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 55 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างรอ COD และจะหนุนรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น ฉะนั้นสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 699 เมกะวัตต์ ทำให้ในปีนี้ธุรกิจไฟฟ้าจะเติบโตทั้งยอดขายและกำลังการผลิต

ด้านธุรกิจสาธารณูปโภค คาดว่า ยอดขายน้ำจะเติบโตตามทิศทางขยายการลงทุนของ WHA Group ที่มีการจัดซื้อที่ดินเพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าทั้งปีนี้ ยอดขายน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะเติบโตกว่าปี 2565 ที่มีปริมาณอยู่ที่ 145 ล้านลูกบาศก์เมตร

“ปัจจุบัน บริษัท ลงทุนธุรกิจสาธารณูปโภค ในไทย 11 นิคมฯ และเวียดนาม 1  นิคมฯ โดยอยู่ระหว่างพิจารณาขยายการลงทุนในไทยเพิ่มอีก 2 นิคมฯ และเวียดนาม เพิ่มอีก 2 นิคมฯ

ขณะที่ธุรกิจน้ำในประเทศเวียดนาม มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของปริมาณและรายได้ โดยจะเห็นว่าในช่วงไตรมาส1 ที่ผ่านมา การดำเนินธุรกิจในเวียดนาม มีทิศทางการฟื้นตัวจากไตรมาส4 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นภาพรวมทั้งปีนี้ก็น่าจะเป็นบวก

ส่วนการลงทุนธุรกิจใหม่ S-Curve ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาในหลายโครงการ เช่น ไฮโดรเจน และระบบกักเก็บพลังงาน(ESS) แต่จะยังไม่ทุ่มการลงทุน เนื่องจากยังต้องรอความชัดเจนของการดำเนินธุรกิจในระยะต่อไปก่อน

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ปีนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องการขาดแคลนน้ำ แต่บริษัท ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานฯขึ้นภายในบริษัท เพื่อวางแผนรับมือ ร่วมถึงประสานงานกับหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันยังมีการจัดทำโครงการที่นำน้ำเสียหรือน้ำใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ ประกอบกับประสบการณ์ในการบริหารจัดการน้ำอย่างมืออาชีพ และบริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือล่วงหน้ามา 1 ปีแล้ว ก็ทำให้มั่นใจว่า จะรับมือกับสถานการณ์น้ำในปีนี้ได้