WP หวังรายได้ปี65 โตทะลุเป้า 1.2 หมื่นลบ. ราคาขาย LPG หนุนมาร์จิ้น

ผู้ชมทั้งหมด 662 

“ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่” คาดรายได้ปี 65 โตทะลุเป้า 1.2 หมื่นล้านบาท หลังราคาขายLPG หนุนมาร์จิ้นในสต็อกเพิ่ม พร้อมรับรู้รายได้ธุรกิจโซลาร์ COD ปีนี้ ด้านธุรกิจโรงซ่อมถังเริ่มทำกำไร ขณะที่คงเป้ายอดขาย 7.65 แสนตัน

นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและบริหารองค์กร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP เปิดเผยในงาน Oppday Q1/2022 บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) WP เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2565 โดยระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทคาดว่า ในส่วนรายได้ จะเติบโตสูงกว่าเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ว่า จะมีรายได้ 1.2 แสนล้านบาท หรือ เติบโต 5% จากปีก่อน เนื่องราคาขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ปรับสูงขึ้นและการทยอยปรับขึ้นราคาขายปลีกในประเทศ ส่งผลดีต่อมาร์จิ้นของจากสต็อกในประเทศ ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากส่วนนี้

ขณะที่ปริมาณการขายรวม ยังเป็นไปตามเป้าหมาย อยู่ที่ 765,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มียอดขายอยู่ที่ 714,738 ตัน โดยปีนี้ คาดว่า จะมีปริมาณการขายในประเทศ อยู่ที่ 740,000 ตัน และส่งออกไปยังต่างประเทศ อยู่ที่ 25,000 ตัน แต่คาดว่าในส่วนของการส่งออกจะทำได้ดีกว่าแผน เพราะจากช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา สามารถส่งออกในแต่ละเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-3 ลำ จากปีก่อนส่งออกอยู่ที่เดือนละ 1ลำ

อีกทั้ง ปีนี้ คาดว่าจะเริ่มเห็นการทำกำไร หลังจากที่บริษัทเข้าซื้อธุรกิจโรงซ่อมถังแก๊สโดย Thai Gas Cylinder Co. ซึ่งจะช่วยให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน สามารถประหยัดต้นทุน และควบคุมคุณภาพได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันมีกำลังการซ่อมอยู่ที่ประมาณ 4.3 แสนใบต่อปี ดังนั้น ปีนี้จะเริ่มเห็นตัวเลขที่มีกำไรเพิ่มขึ้น

สำหรับแผนการลงทุนของบริษัท ในปีนี้ งบลงทุนยังเป็นไปตามแผน อยู่ที่ 860 ล้านบาท โดยจะขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางและครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น แบ่งเป็นในส่วนของ B2B จำนวน 10 แห่ง ใช้เงินลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท และ B2C จำนวน 22 แห่ง ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้สำหรับการขยายธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป อีก 20 เมกะวัตต์ หรือใช้เงินลงทุนประมาณ 460 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจโซลาร์ฯ ที่ลงทุนไปในปีก่อน จะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ(COD)ในปีนี้ ทำใหจะรับรู้รายได้ในปีนี้

ช่วงไตรมาส3-4 ปีนี้ ภาพธุรกิจจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรก ตามทิศทางของเศรษฐกิจที่ว่าจะเริ่มฟื้นตัว หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่า เบาลง ดังนั้น บริษัทจะเร่งเรื่องของแผน B2B ให้ครอบคลุม 77 จังหวัด และแผนB2C เพื่อเพิ่มปริมาณร้านค้าให้บริการมากสนองต่อดีมานด์ก๊าซที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น หากไม่มีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เหลือของปีนี้ ประเมินว่า ปริมาณการขาย LPG ในกลุ่ม Auto Gas ยังขยายตัวต่อเนื่อง เทียบกับในช่วงที่ผ่านมากลุ่ม Auto Gas จะลดลง10% ทุกปี

ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2565 บริษัทมีสัดส่วนการขาย LPG แบ่งเป็น กลุ่มครัวเรือน คิดเป็นสัดส่วน 58.5%,กลุ่มอุตสาหกรรม 22.8% และกลุ่ม Auto Gas 18.8% ของปริมาณการขายทั้งหมด ปัจจุบัน WP มีส่วนแบ่งทางการตลาด LPG อยู่ที่ 19% เป็นอันดับ 2