ผู้ชมทั้งหมด 554
“คมนาคมทีมเวิร์ค” พร้อมลุยงานตอบโจทย์ความคาดหวังของประชาชน เร่งหารือ “กลาโหม” ขอ Slot กองทัพอากาศ ให้ทอท. รองรับช่วงไฮซีซั่น นักท่องเที่ยวทะลัก พร้อมยืนยันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทำแน่แต่ขอเวลา 2 ปี เร่งเดินหน้าโครงสร้างพื้นที่ทุกโครงการให้ครบลูป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่กระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี และ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้เข้าทำงานที่กระทรวงฯ เป็นวันแรก และพบปะกับผู้บริหารและสื่อมวลชน โดย นายสุริยะ กล่าวว่า วันนี้ผมตื่นตั้งแต่ตี 5 เข้ามาที่กระทรวงคมนาคมเป็นวันแรก และดีใจมากแต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดว่าถ้ารัฐบาลยังไม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาทางรมต.ยังไม่สามารถให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ได้ ดังนั้นในวันนี้จึงเข้ามาพบปะข้าราชการ และให้หัวหน้าหน่วยงานให้ข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทการทำงานของแต่ละหน่วยเพื่อเตรียมตัวชี้แจงในการแถลงนโยบายของรัฐบาล
ขณะเดียวกัน รมต.ได้พูดถึงแนวทางในการทำงาน โดยจะช่วยกันผลักดันให้กระทรวงคมนาคมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาของรัฐบาล และมีความยินดีอย่างยิ่ง แต่ก็มาพร้อมกับภาระที่ประชาชนคาดหวังจากรัฐบาลอย่างมาก และนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่ารัฐมนตรีต้องทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ดังนั้น รมต.ทั้ง 3 ท่านก็จะปฏิบัติตามนโยบาย และได้กำชับกับข้าราชการให้ช่วยกันทำงานให้ได้ผลอย่างรวดเร็ว
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า นโยบายที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน คือ เรื่องการท่องเที่ยว เนื่องจากช่วงปลายปีจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวนมาก โดยที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยเฉพาะสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ให้เร่งจัดสรรตารางเวลาการบิน (Slot) ให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงไฮซีซั่น
ทั้งนี้จากการพูดคุยกับ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT (ทอท.) ได้รับทราบว่า ทางกองทัพอากาศ (ทอ.) ยังมี Slot การบินเหลืออีกพอสมควรในช่วงเช้า ซึ่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 66 ได้มีโอกาสหารือกับนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอแบ่ง Slot การบินกับกองทัพอากาศ ถ้าหากแบ่งส่วนหนึ่งให้กับ ทอท.ได้ 100 – 150 เที่ยวบินต่อวัน หรือประมาณกว่า 10,000 คน
ส่วนระยะต่อไปมอบว่าประเทศไทยมีระบบโลจิสติกส์ที่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้ว ซึ่งมีระบบโลจิสติกส์ประมาณ 9% ของจีดีพี ขณะที่ไทยมี 15 % ของจีดีพี สาเหตุหลักเพราะไทยใช้ระบบขนส่งทางบกเป็นหลัก ขณะที่ทางอากาศ น้ำ และรางเพียงแค่ 2% ดังนั้นรัฐบาลจำเป้นต้องรีบลงทุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะระบบราง รถไฟรางคู่ ที่ต้องเร่งรัดผู้รับเหมาได้ทำงานได้ตรงเวลา
ส่วนโครงการใหม่ๆ ก็ต้องรีบเสนอให้ครบลูป เช่น รถไฟทางคู่ ขอบแก่น-หนองคาย ที่นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ไปดู ซึ่งเส้นทางนี้มีความสำคัญสามารถขนส่งสินค้าผ่านไปทางประเทศลาวและไปถึงจีนได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ตนตั้งใจอย่างมาก ซึ่งในสมัยที่อยู่กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเรื่องบทบาทของการให้นโยบาย ที่ตนไม่ค่อยถนัด เพราะตลอดเวลาที่ทำงานภาคเอกชนมาเป็นผู้ปฏิบัติ ซึ่งกระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติจริงๆทำให้เกิดผลได้ คิดว่าการกลับมาทำงานที่กระทรวงคมนาคมครั้งนี้คงสนุกสนานมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนเรื่องนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นายสุริยะ กล่าวว่า ตนได้กล่าวขอโทษกับประชาชนผู้ใช้รถไฟฟ้าแล้ว เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องอื่นมากกว่า แต่ข้อเท็จจริงคือ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นนโยบายที่สำคัญสำหรับคนกรุงเทพและปริมณฑล เพราะป็นภาระค่าใช้จ่ายค่อนข้างหนักมากในการเดินทาง บางครั้งต้องต่อ 3-4 สายกว่าจะถึงจุดหมาย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็ได้ไปดูและเห็นความจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ได้ แต่ปัญหาเรื่องนี้คือมีขั้นตอนต้องเจรจากับผู้รับสัมปทาน ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เป็นการ ดำเนินงานของ กทม. แต่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนรฟม.ก็ต้องคุยกับ
ผู้ประกอบการและต้องใช้เวลา โดยเฉพาะการใช้ตั๋วร่วมที่ต้องมีการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเกือบ 1,000 ล้านบาท และต้องใช้เวลาอีก 1 ปีถึงจะแล้วเสร็จ จึงต้องใช้เวลาเตรียมการ
อย่างไรก็ตามหากสามารถลดค่าโดยสารได้ 20 บาทตลอดสายได้ จะทำให้ผู้โดยสารเพิ่ม 10% ก็จะเป็นรายได้เพิ่มขึ้นทันทีก็จะคุยกับผู้รับสัมปทานว่าจะแบ่งปปันผลประโยชน์อย่างไร ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลา แต่เท่าที่ประมาณการน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี เรื่องนี้จะสำเร็จและหลังจากนั้นก็จะให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้ ขณะเดียวกันต้องไปเชคว่าเมื่อค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายรัฐบาลต้องใช้เงินชดเชยเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากแถลงนโยบายแล้วตนจะเรียกข้อมูลตัวเลขมาวิเคราะห์ให้ชัดเจน แต่ยืนยันว่านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเราทำแน่เพียงแค่ขอเวลาเท่านั้น
นางมนพร กล่าวว่า ตนจะตั้งใจทำงานให้เป็นรัฐบาลของประชาชน สิ่งใดที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนก็จะลงมือทำทันทีตามคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้โอวาทกับครม.เรื่องความโปร่งใสในการทำงาน เรื่องความเป็นธรรมในการโยกย้ายของข้าราชการและคนทุกกล่าว ซึ่งภาระที่เรารับมาจากประชาชนที่คาดหวังจากรัฐบาลชุดนี้เราจะทำงานให้หนักและขอความร่วมมือจากข้าราชการกระทรวงคมนาคม สื่อมวลชน และประชาชน เพื่อก้าวผ่านความขัดแย้ง นำไปสู่การพัฒนาประเทศที่ทันสมัย ทันโลกกับความคาดหวังของประชาชน
ด้าน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้วาระของประเทศไทนคือวาระของชาติต้องช่วยกันขับเคลื่อน ซึ่งกระทรวงคมนาคมก็จะเป็นหน่วยงานหนึ่งและเป็นจิ๊กซอร์หนึ่งที่จะส่งเสริมเรื่องของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ซึ่งตนพร้อมทำงานอยู่แล้ว แต่รอหลังจากรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนทุกอย่างก็จะมีความชัดเจน