“นายก” ไฟเขียวโปรเจคโครงสร้างพื้นฐานเชียงใหม่ ผุดสนามบินล้านนา

ผู้ชมทั้งหมด 5,625 

นายก” ไฟเขียวโปรเจคโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เชียงใหม่ ผุดสนามบินล้านนารับรองการเดินทางในอนาคต สร้างถนนวง แหวนรอบ 3 แก้จราจรติดขัดในมือง พร้อมพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หนุนเปลี่ยนโฉมรถสองแถวแดงเป็น EV ลดปัญหามลพิษและฝุ่น PM 2.5

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการเชื่อมโยงระบบขนส่งและการเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่แนวทางการพัฒนาถนนเพิ่มศักยภาพการเดินทางระหว่างภูมิภาค และความพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 ณ ห้องประชุมกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ นั้น ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่เชื่อมโยงระบบขนส่งและการเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และการบรรเทาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 ตามที่กระทรวงคมนาคมนำเสนอดังนี้

1. โครงการก่อสร้างสนามบินล้านนา (เชียงใหม่แห่งที่ 2) โดยเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นในพื้นที่ประมาณ 8,000 ไร่ ตั้งอยู่ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่และอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการให้สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเพิ่มเส้นทางการบินในอนาคต

2. โครงการก่อสร้างถนนวงแหวนรอบ 3 เชียงใหม่ 3 (ทล.121) ระยะทางรวม 52.957 กิโลเมตร เพื่อแก้ปัญหาปริมาณรถสะสมและการจราจรติดขัดบริเวณทางแยกสัญญาณไฟ เพื่อสนับสนุนการเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

3. โครงการรถแดงไฟฟ้า (EV) โดยกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างประสานผู้ประกอบการขนส่งเข้ามาทำการเดินรถในเส้นทาง สำหรับรถสองแถว (รถแดง) และได้กำชับให้เข้มงวดการติดป้ายแสดงราคาที่เป็นมาตรฐานชัดเจนบริเวณตัวรถและเพิ่มจุดหยุด – รับส่งผู้โดยสารให้ครอบคลุมและสะดวกในการเดินทาง ในส่วนของการส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อลดปัญหามลพิษและฝุ่น PM 2.5 รวมทั้งมอบให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณากำหนดมาตรฐานการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ของรถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งหาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมและปลอดภัย

นอกจากนี้ยังนำเสนอแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 7 แห่ง ได้แก่ สวนพฤกษศาสตร์  ไนท์ซาฟารี อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ น้ำตกห้วยแก้ว สวนสัตว์เชียงใหม่ และเวียงกุมกาม เพื่อเพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงเชียงใหม่และจังหวัดในภาคเหนือ 

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือในการทำงาน ช่วยกันพัฒนาโครงข่ายทางถนน สนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสาธารณะ และเร่งผลักดันระบบขนส่งสาธารณะให้ทั่วถึงเพื่อลดการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคล ดึงดูดให้คนเชียงใหม่หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทาง ลดปัญหาการจราจร ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาการเกิด PM 2.5

อย่างไรก็ตามคณะนายกรัฐมนตรี ยังได้เดินทางติดตามความพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 พร้อมชมการสาธิตวิธีการปล่อยฝนหลวง และตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ ณ บริเวณจุดจอดอากาศยานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กองบิน 41