“พลังงาน” ห่วงมาตรการลดภาษีฯ สิ้นสุด ม.ค.นี้ ดันราคา “เบนซิน-แก๊สโซฮอล์” พุ่ง 2.50 บาทต่อลิตร

ผู้ชมทั้งหมด 539 

“พลังงาน” หวั่น สิ้นสุดมาตรการลดภาษีฯ น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์  31 ม.ค.นี้ ดันราคาขายปลีกขึ้น 2.50 บาทต่อลิตร ซ้ำรอยปัญหาปั๊มขาดแคลนน้ำมัน

สืบเนื่องจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2566 เห็นชอบปรับลดภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ลงในอัตรา 1 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 66 เป็นต้นไป เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 91 เดิมกระทรวงพลังงานเสนอแนวทางต่อครม. ไว้ว่า จะปรับลดราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ในอัตรา 2.50 บาทต่อลิตร แต่หลังจากทำงานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับทราบจากกระทรวงการคลังว่า ภาษีสรรพสามิตไม่ได้แบ่งแยกระหว่างน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 กระทรวงการคลัง เห็นว่า ไม่สามารถปรับลดภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทในอัตรา 2.50 บาทต่อลิตรได้ กระทรวงการคลัง จึงเสนอให้กระทรวงพลังงาน ไปบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฯ เพิ่มอีก 1.50 บาทต่อลิตร และจะพยายามทำให้ทันวันที่ 7 พ.ย. 2566

จนนำไปสู่ มติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2566 ได้เห็นชอบให้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บาทต่อลิตร และยังลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ลงตามอัตราภาษีสรรพสามิตที่เปลี่ยนแปลง ตามแนวนโยบายของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่จะส่งผ่านให้การลดภาษีสรรพสามิตไปลดราคาขายปลีกให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งลดราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ลงมากกว่าอัตราภาษีน้ำมันที่สรรพสามิตที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินในครั้งนี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.66 – 31 ม.ค. 2567 โดยมีรายละเอียดดังนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาทต่อลิตร, น้ำมันเบนซิน ULG 95 และ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลงประมาณ 1 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 ลดลงประมาณ 80 สตางค์ต่อลิตร

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน ที่ปรับลงไปตามมาตรการลดภาษีและปรับการจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายปรับลดราคากลุ่มเบนซินลง 2.50 บาทต่อลิตร จะสิ้นสุดลงทันที่ในวันที่ 31 ม.ค.2567 หากไม่มีนโยบายต่ออายุมาตรการทั้ง 2 ส่วนดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ดังนี้ ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จะปรับขึ้นรวม 2.50 บาทต่อลิตร ,ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ปรับขึ้นรวม 1 บาทต่อลิตร ,น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 ปรับขึ้นรวม 80 สตางค์ต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเรื่องดังกล่าว เสนอให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รับทราบแล้ว และอยู่ระหว่างรอพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับมือต่อไป

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ปัญหาน้ำมันขาดแคลนในสถานีบริการน้ำมัน หากราคาน้ำมันกลับไปเพิ่มขึ้นทีเดียว 2.50 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้ประชาชนแห่ไปเติมน้ำมันก่อนปรับราคา และเกิดปัญหาน้ำมันหมดปั๊มซ้ำรอย ช่วงเหตุการณ์ลดราคาน้ำมันลงเมื่อวันที่ 7-8 พ.ย.2566 จนนำไปสู่การร้องเรียน ซึ่งเรื่องนี้ กรมธุรกิจพลังงาน ก็ต้องเตรียมแนวทางรับมือไว้ด้วย หากราคาน้ำมันปรับขึ้นจริง”

สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 7 ม.ค.2567 ติดลบรวม 80,101 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน ติดลบ 33,984 ล้านบาท และ บัญชี LPG ติดลบ 46,117 ล้านบาท