AOTเงินสดเต็มมือ3.2หมื่นล้านยันปีนี้ไม่ต้องกู้

ผู้ชมทั้งหมด 1,126 

AOT ยันปีนี้ไม่ต้องกู้เงินแม้ขาดทุน มีเงินสดในมือกว่า 3.2 หมื่นล้านบาทเพียงพอต่อการลงทุน คาดใช้เงินลงทุนปี 64 ราว 1.5 หมื่นล้าน ลุ้นวัคซีนใช้ได้ผลดี มั่นใจปี 65 ผู้โดยฟื้นตัวหนุนกลับมามีกำไร ขณะปี 66 จะเป็นปีที่รายได้กลับมาปกติอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนไวรัสโควิด-19 ระบาด EBITDA ปีละ 40,000 ล้านบาท

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าวว่า การดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 (พ.ย.63- ต.ค.64) ยังไม่จำเป็นต้องกู้เงิน เนื่องจากบริษัทมีเงินสดในมือราว 32,000 ล้านบาทยังเพียงพอต้องการลงทุน แม้ว่าในปีนี้มีแนวโน้มจะขาดทุนก็ตาม โดยจะเป็นการขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่ตั้งบริษัท โดยในปีงบประมาณ 2564 นั้นมีกรอบวงเงินเบิกจ่ายราว 15,685 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนต่อเนื่องในโครงการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) ภายใต้โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.ระยะ 2) และลงทุนในโครงการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานในปี 2564 หากเกิดการขาดทุนตามที่คาดการณ์ไว้ก็จะเป็นปีแรกที่ขาดทุนสุทธินับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยในช่วงปี 59-62 นั้นมีกำไรเติบโตอยู่ใสนระดับ 1.9-2.5 หมื่นล้านบาทมาโดยตลอด จนกระทั่งปี 2563 นั้นมีกำไรเพียง 4.3 พันล้านบาท หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2564 (พ.ย.63-ม.ค. 64) ปริมาณการจราจรทางอากาศของ AOT ทั้ง 6 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานหากใหญ่ มีจำนวนเที่ยวบินรวม 104,336 เที่ยวบิน ลดลง 53.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 14,903 เที่ยวบิน ภายในประเทศ 89,433 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารมีทั้งหมด 10.73 ล้านคน ลดลง 70.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 0.20 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 10.53 ล้านคน ซึ่งส่งผลให้ AOT ขาดทุนสุทธิ 3,441 ล้านบาท ลดลง 146.93% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7,334 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามตนประเมินว่าภายหลังจากในแต่ละประเทศมีการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ในปี 64 นั้นก็คาดว่าในช่วงเดือนตุลาคม 2565 ปริมาณผู้โดยสารจะเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งเป็นก่อนช่วงที่มีไวรัสโควิด-19 ระบาด และจะกลับมามีกำไร และคาดว่าในปี 2566 ปริมาณผู้โดยสารทั้ง 6 แห่งของ AOT จะกลับมาปกติเทียบเท่ากับช่วงก่อนไวรัสโควิด-19 ระบาดที่มีปริมาณผู้โดยสารรวม 141,873,999 คน และมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA เฉลี่ยปีละ 40,000 ล้านบาท