GPSC ลุยลงทุนปีนี้กว่า 3 หมื่นลบ. เพิ่มกำลังผลิตไฟ 500 MW

ผู้ชมทั้งหมด 1,759 

GPSC คาดผลประกอบการปี 65 ดีขึ้นจากปี 64 เหตุความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำโตตาม GDP พร้อมตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตผลิตไฟโต 500 เมกะวัตต์ มุ่งพลังงานทดแทนสนองนโยบายรัฐเพิ่มพลังงานสะอาด ลั่นลุยลงทุน 6 หมื่นล้านบาท ตามแผน 5 ปี ขณะที่ปีนี้ ตั้งงบ 30,986 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ลงทุนพลังงานลมในไต้หวัน

น.ส.ศิโรบล บุญถาวร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยในงาน Oppday Year End 2021 ของบริษัท เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2565 โดยระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่า ผลประกอบการจะดีขึ้นจากปี 2564 ที่บริษัท มีรายได้รวมอยู่ที่ 74,874 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่วนกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 7,319 ล้านบาท ลดลง 3% โดยประเมินว่าจะมีปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้า จะเติบโตขึ้น 7% จากปีก่อน และความต้องการใช้ไอน้ำ โตขึ้นราว 2% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตตามทิศทางเศราฐกิจ หรือ จีดีพี ปีนี้ที่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับ การซ่อมแซมโรงไฟฟ้าโกลว์ พลังงาน ระยะที่ 5 จะแล้วเสร็จ และกลับมาเดินเครื่องตามปกติได้ ภายในปลายเดือนก.พ.นี้ หรือ ต้นเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งจะช่วยหนุนมาร์จินของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัท ยังตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก ประมาณ 500 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากการทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานโซลาร์ฟาร์ม ในอินเดีย ที่บริษัทเข้าถือหุ้น 41.6% ในบริษัท Avaada Energy Private Limited (Avaada) ที่มีเป้าหมายจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 4,600 เมกะวัตต์ และในปี 2568 จะเพิ่มเป็น 11,000 เมกะวัตต์ รวมถึง ยังมองโอกาสลงทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์ฯขนาดเล็กในประเทศไทยด้วย โดยบริษัท จะมุ่งเน้นการลงทุนพลังงานทดแทน เพื่อสนองต่อนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมพลังงานสะอาด

อีกทั้ง ในปีนี้ บริษัท ยังตั้งเป้าหมายจะ รับรู้มูลค่า Synergy จากการควบรวมกิจการสุทธิหลังภาษี เติบโตมากกว่าปี 2564 ที่ทำได้จำนวน 1,633 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ได้รับจากการบริหารจัดการการผลิตและใช้โครงข่ายไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน ทำให้สามารถบริหารต้นทุนการผลิตและการขยายฐานลูกค้า เป็นต้น

ขณะเดียวกัน แม้ว่า ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำจะเพิ่มขึ้นทั้งจากราคาก๊าซฯ และถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อบริษัทนั้น แต่จากการที่ภาครัฐมีนโยบายปรับขึ้นค่าไฟฟ้า(Ft) ในงวดแรกของปีนี้(ม.ค.-เม.ย.2565) ไปแล้ว และมีแนวโน้มจะปรับขึ้นในงวดที่เหลือของปีนี้ ก็ต้องติดตามดูว่า ภาครัฐจะมีนโยบายอย่างไร ซึ่งการปรับขึ้นค่าไฟ จะส่งผลดีต่อมาร์จินของบริษัท อีกทั้ง บริษัทก็ได้ทำการบริหารความเสี่ยงต้นทุนค่าเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย  

นายพงษ์ศักดิ์ พลายงาม ผู้จัดการส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC กล่าวว่า บริษัท ได้ตั้งงบลงทุนช่วง 5 ปี(ปี2565-2569) อยู่ที่ 60,000 ล้านบาท โดยการลงทุนหลักๆปีนี้ จะอยู่ที่ 30,986 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นการลงทุนโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน (Offshore Wind) ขณะที่ปี 2566 จะเน้นการลงทุนโครงการ SPP Replacement และปีถัดไป จะเป็นการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ(ERU) ตลอดจนการลงทุน S-Curve และธุรกิจESS ซึ่งหากมีความคืบหน้าในการลงทุนจะอัพเดทข้อมูลต่อไป