NAM มั่นใจดีมานด์หนุนธุรกิจผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ฯโตต่อเนื่อง

ผู้ชมทั้งหมด 307 

“NAM” โชว์ศักยภาพผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อ ปักธงรุกขึ้นแท่นบริษัทระดับแนวหน้าของไทย รองรับธุรกิจโตตามความต้องการใช้ พร้อมนำบริษัมเข้าระดมทุนต่อยอดทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่การเติบโตระดับโลกในอนาคต

นายวิโรจน์ ชัยเทิดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM ผู้ประกอบการธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์กลุ่มทำให้ปราศจากเชื้อ (sterilization) ชั้นนำในประเทศ ระบุว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินจากมูลค่าการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทยปี 2565- 2566 มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-7% สาเหตุหลักมาจากความต้องการใช้เครื่องมือแพทย์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการใช้บริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลทยอยกลับสู่ระดับใกล้เคียงปกติ ภายหลังการระบาดของ COVID-19 ที่คลี่คลาย และปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ได้แก่

1. อัตราการเจ็บป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)  2. จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มกลับมาใช้บริการในไทยเพิ่มขึ้นในปี 2565-2566 หลังจากหดตัวถึง 97% ในปี 2564 3. ผู้ประกอบการโรงพยาบาลมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่อง 4.กระแสการใส่ใจสุขภาพและความต้องการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 5.ประเทศคู่ค้าหลักของไทยยังมีความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองประเภทถุงมือยาง หลอด และเข็มฉีดยา เป็นต้น และ 6.นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐในการพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์โดยรวมมีแนวโน้มสูงขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมานานกว่า 50 ปี โดยเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิต นำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในระดับปราศจากเชื้อในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข รวมถึงผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาและวัสดุสิ้นเปลือง สำหรับใช้ร่วมกับเครื่องมือทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร

นำวิวัฒน์ มีแผนการเติบโตไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่ต้องการเติบโตในระดับโลก จึงนำไปสู่ความร่วมมือระหว่าง นำนิวิวัฒน์ กับ อินโนบิก ที่มีวิสัยทัศน์ รวมถึงมีแผนและแนวทางตรงกันในการขยายตัวทั้งสินค้าและผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดโลก

จากปัจจุบัน นำวิวัฒน์ มีการส่งออกอุปกรณ์ทางการแพทย์ สู่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมา หรือกลุ่ม CLMV รวมถึงจีน ด้วย และในอนาคตจะขยายการส่งออกไปอีกหลายประเทศ จึงต้องเตรียมความพร้อมด้านโรงงานผลิตฯ งานวิจัยและพัฒนา(R&D) บุคลากร ความชำนาญในธุรกิจ ฉะนั้น การมี อินโนบิก เข้ามาจะทำให้เกิด Synergy  ร่วมกันและสร้างการเติบโตธุรกิจการผลิตเครื่องมือแพทย์ประเภทเครื่องฆ่าเชื้อแบบครบวงจรในตลาดโลก

บริษัทมุ่งมั่นก้าวสู่ผู้นำอุตสาหกรรมผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อในประเทศไทย และพร้อมต่อยอดขยายไปสู่ระดับโลกในอนาคต โดยมีเป้าหมายสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ต่อยอดนวัตกรรมจากการคิดค้น วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ร่วมกับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ รองรับการเติบโตจากนโยบายสุขภาพที่ได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากภาครัฐ และมาตราฐานทางการแพทย์ที่พัฒนาให้มีความปลอดภัยมากขึ้น การขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่เป็นองค์กรทางการแพทย์ เข้าถึงลูกค้าอื่นที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรขนาดเล็ก อาทิ ห้องทดลอง คลินิก ห้องปฏิบัติการทั้งคนและสัตว์ ผู้บริการทางการแพทย์ รวมถึงกลุ่มลูกค้าระดับครัวเรือน นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าการเติบโตจากการขยายกิจการของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกิจการใหม่ หรือความร่วมมือทางธุรกิจในอนาคต เพื่อมุ่งเน้นการขยายกิจการในต่างประเทศ ด้วยการสร้างรากฐานรองรับการเติบโตในอนาคต

ปัจจุบัน นำวิวัฒน์ มีลูกค้าโรงพยาบาลในประเทศไทยกว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ โดยการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น บริษัท ต้องการนำเงินมารองรับขยายการลงทุนตามแผน เพื่อสร้างการเติบโตใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.นำงบประมาณไปจัดสร้างโรงงานฯแห่งใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตฯ ที่จ.สมุทรปราการ ใกล้กับพื้นที่โรงงานเดิม คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2568 เพื่อให้บริษัท มีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยมากขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มขึ้น

2.ส่งเสริมเรื่องการวิจัยและพัฒนา R&D พัฒนาสู่ศูนย์วิจัยการฆ่าเชื้อทางการแพทย์ เป็นต้น และ 3. ใช้เพิ่มโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาว ปัจจุบัน มีการเจรจรากับพันธมิตรร่วมลงทุนหลายราย ทั้งในเอเชียฯ และยุโรป รวมถึงพิจารณาการลงทุนในหลายรูปแบบ แต่ยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้

ทั้งนี้ เมื่อราวปีที่ผ่านมา หรือ เมื่อวันที่ 18  พ.ค.2566 บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (อินโนบิก) ซึ่งเป็นแกนหลักของกลุ่ม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) PTT ผู้ดำเนินธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพ (Life Science) ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท นำวิวัฒน์การช่าง (1992) จำกัด (นำวิวัฒน์ : NAM) ผู้ประกอบการธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์กลุ่มทำให้ปราศจากเชื้อ (sterilization) ชั้นนำในประเทศ โดย อินโนบิก ตัดสินใจลงทุนในนำวิวัฒน์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 17.65% ในประเทศ

โดยหลังจาก อินโนบิก เข้าไปถือหุ้น นำวิวัฒน์ ได้ส่ง CFO เข้าไปช่วยเรื่องการทำไฟลิ่ง รวมถึง ส่งคนเข้าไปนั่งเป็นกรรมการ(บอร์ด) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลงานวิจัยร่วมกัน อัพเดทเทรนด์ทางการแพทย์ใหม่ๆ และแสวงหาโอกาสผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ ทำให้นำวิฒน์ ประหยัดระยะเวลาในการวิจัยฯ และลดต้นทุน ซึ่งในไม่ช้าคาดว่าจะมีการออกผลิตภัณฑ์ร่วมกันภายใต้แบรนด์ NAM

นายสุขุม โพธิสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์และบริการแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

(1.) กลุ่มผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ (SM) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่คิดค้น วิจัยและพัฒนา ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์สะอาด ปราศจากเชื้อและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่กับผู้ป่วยรายถัดไปได้ตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.1) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องมือทางการแพทย์ 1.2) ผลิตภัณฑ์สำหรับการบำบัดขยะติดเชื้อทางการแพทย์ 1.3) ผลิตภัณฑ์สำหรับฆ่าเชื้อในอากาศและผิวสัมผัส และ 1.4) ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Exclusive Distributor) ในการขายเครื่องมือทางการแพทย์กลุ่มทำให้ปราศจากเชื้อ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Steelco” ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก จากบริษัท สตีลโก้ เอส.พี.เอ (Steelco S.p.A.) ประเทศอิตาลี และยังเป็น Exclusive Distributor ในประเทศไทยและประเทศในโซนเอเชีย เพื่อจัดจำหน่ายเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก AAVI technology LTD. (AAVI) ประเทศฟินแลนด์ และได้รับกรรมสิทธิ์การผลิตผลิตภัณฑ์จากเทคโนโลยีฆ่าเชื้อในอากาศในประเทศไทยอีกด้วย

(2.) กลุ่มผลิตและจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (CS) โดยบริษัทฯ เป็นผู้ผลิต นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ที่ใช้ร่วมกับเครื่องมือทางการแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ร่วมกับเครื่องทำความสะอาด อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้ง ซึ่งใช้ควบคู่กับเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ น้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับงานล้างอุปกรณ์ต่างๆ ในกระบวนการแช่และล้างทำความสะอาด และน้ำยาที่ใช้ในกลุ่มเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ อีกทั้งยังได้รับสิทธิเป็น Exclusive Distributor ชุดตรวจสอบการฆ่าเชื้อ ชุดทดสอบและชุดตรวจประสิทธิภาพกระบวนการทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์ โดยเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าของบริษัท Terragene LLC จากประเทศอาร์เจนตินา, ตัวแทนจำหน่ายน้ำยาล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ของบริษัท Borer Chemie AG จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านน้ำยาทำความสะอาดเครื่องมือทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายวัสดุที่ใช้ในการห่ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์เพื่อใช้ในการอบฆ่าเชื้อของ บริษัท Sterimed จากประเทศฝรั่งเศส

(3.) กลุ่มงานให้บริการ (SV) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้บริการหลังการขาย บริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องมือทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ บริการทำให้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ปราศจากเชื้อ รวมถึงบริการวางแผนและปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางของโรงพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล  และบริการบำบัดขยะติดเชื้อทางการแพทย์ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ เป็นหนึ่งในกระบวนการด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย หรือ Patient Safety เพราะอุปกรณ์การแพทย์เป็นเครื่องมือที่ต้องนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) โดยปัจจุบัน NAM มีฐานลูกค้าที่สำคัญเป็นโรงพยาบาลและหน่วยงานองค์กรทางด้านสาธารณสุขกว่า 1,200 แห่ง ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับ ผลการดำเนินงานช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2563 – 2565) บริษัทฯ  มีรายได้จากการขายและบริการรวม 676.61 ล้านบาท 995.36 ล้านบาท และ 1,099.36 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งเป็นการเติบโตจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ (SM) คิดเป็นสัดส่วน 53.18% การผลิตและจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (CS) คิดเป็นสัดส่วน 26.69% และการให้บริการ (SV) คิดเป็นสัดส่วน 19.11% ทั้งนี้ บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มมากขึ้นจากฐานลูกค้าเดิมที่เคยซื้อสินค้าหรือใช้บริการอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลภาครัฐ รวมถึงการเพิ่มลูกค้าในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน คลินิก หรือหน่วยงานองค์กรทางสาธารณสุขอื่นๆ เป็นต้น เพราะด้วยจุดแข็งของ NAM ในการนำเสนอสินค้าและให้บริการครบวงจรตั้งแต่การผลิต นำเข้า และจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมีการคิดค้นและพัฒนาจนมีสิทธิบัตร (Patent) เป็นของตนเอง และยังสามารถขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมกลุ่มนวัตกรรมทางการแพทย์ในประเทศ พร้อมทั้งได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล รวมถึงยังแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ NAM ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 181 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.86% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลัง IPO

แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทจำนวนไม่เกิน 105 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย WAI Global Corporation Limited จำนวนไม่เกิน 76 ล้านหุ้น โดยได้แต่งตั้งให้บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ และ บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

NAM เป็นบริษัทประกอบกิจการค้าเครื่องมือแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้อุปกรณ์สะอาดและปราศจากเชื้อ จดทะเบียน 18 ตุลาคม 2565 โดยแปรสภาพจาก บริษัท นำวิวัฒน์การช่าง (1992) จำกัด ทุนจดทะเบียน 350,000,000 บาท โดยมีบริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ร่วมถือหุ้น และหลังจากเข้าระดมทุนแล้ว อินโนบิก จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือราว 15%