บีทีเอส กรุ๊ปฯ จับมือ วินโนหนี้ เปิดตัว “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto” 

ผู้ชมทั้งหมด 498 

บีทีเอส กรุ๊ปฯ จับมือ วินโนหนี้ เปิดตัว “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto” คืนอากาศสะอาดให้คนกรุง บุกตลาดวินมอเตอร์ไซค์ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า เช่าซื้อ 4,000 บาทต่อเดือน ตั้งเป้า 5 ปี 6 หมื่นคัน คาดช่วยผู้ขับขี่ประหยัดค่าใช้จ่ายรวม 48 ล้านบาทต่อปี วอนรัฐคิดค่าไฟราคาพิเศษที่สถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ณ ลานจอดแล้วจร สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดตัว “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto บริษัท สมาร์ท อีวี ไบค์ จำกัด” โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายกวิน กาญจนพาสน์  กรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และนายสุรพงษ์  เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการใหญ่สายธุรกิจ MOVE บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ, นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารจากกรุงเทพมหานคร และคณะ, บีทีเอสกรุ๊ปฯ, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท วินโนหนี้ จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก และบริษัทสมาร์ท อีวี ไบค์ จำกัด เข้าร่วม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ต้องการเพิ่มรายได้ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีรายได้น้อย และยังเป็นการสานต่อนโยบาย Carbon Neutrality เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียน ในด้านลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ โดยรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศ ให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนพร้อมให้การสนับสนุน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ในระบบขนส่งสาธารณะระบบรอง โดยเฉพาะจักรยานยนต์รับจ้าง เพราะถือเป็นหนึ่งในระบบขนส่งรองที่สำคัญ ในการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งหลัก เช่น รถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีของประชาชนที่จะได้ใช้บริการขนส่งระบบรองใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสที่มีคุณภาพ ซึ่งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ให้กับคนกรุงเทพมหานครได้มากยิ่งขึ้น และยังช่วยยกระดับรายได้ให้กับกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 มอบอากาศที่ดีให้กับทั้งผู้ขับขี่ และผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่สำคัญโครงการนี้ยังเป็นไปตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร ที่สนับสนุนระบบขนส่งมวลชนที่ใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาว ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน  นอกจากนี้ทางกรุงเทพมหานครยังสนับสนุนให้ภาคเอกชนติดตั้งสถานีชาร์จ และเปลี่ยนแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ที่กรุงเทพมหานครดูแลรับผิดชอบ และจะร่วมกันผลักดันให้มีสถานีชาร์จเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย 

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto จะเป็นรากฐานสำคัญให้กับกลุ่มวินรถจักรยานยนต์กว่า 200 แห่งตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งจะนำร่องแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสก่อน  โดยสนับสนุนการเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มวินจักรยานยนต์ตามแนวรถไฟฟ้า ด้วยการจัดแคมเปญพิเศษ ลดค่าบริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto จาก4,500 บาทต่อเดือน เหลือเพียง 4,000 บาทต่อเดือน ซึ่งราคาดังกล่าว จะรวมถึงบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ฟรีค่าบำรุงรักษา และซ่อมแซม 1 ปี (เงื่อนไขตามที่บริษัทกำหนด) สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567

สำหรับ“รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto” ของบริษัท สมาร์ท อีวี ไบค์ จำกัด เกิดจากแนวคิดความร่วมมือของบีทีเอสกรุ๊ปฯ ผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมระดับโลก และบริษัท วินโนหนี้ จำกัดบริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก ผู้นำด้านพลังงานแห่งอนาคต ที่ต้องการสร้างบริการขนส่งสาธารณะ ระบบรอง หรือFeeder ที่มีความสะดวก ปลอดภัย และยกระดับรายได้ให้กับผู้เช่า หรือกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ รวมทั้งเป็นการเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า

ขณะที่ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า วินโนหนี้เป็นสตาร์ทอัพภายในองค์กรของบางจากฯ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 ด้วยการนำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มายกระดับคุณภาพชีวิตของจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ตอบโจทย์การเข้าสู่ธุรกิจรถไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทบางจาก และเป็นการสร้าง Net Zero Ecosystem หรือระบบนิเวศเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของบริษัทฯ ในปี 2593

วินโนหนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากวันเริ่มต้นดำเนินงานจนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ใช้งานกว่า 1,000 ราย ผ่านเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติจำนวน 120 สถานี ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลซึ่งถือเป็น Win-Win Solution ใน 3 ด้าน คือช่วยให้ชีวิตผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ดีขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเช่าใช้จักรยานยนต์ ประมาณเดือนละ 4,000 บาท หรือ 48,000 บาทต่อคนต่อปี รวม 48 ล้านบาทต่อปีโลกดีขึ้น จากการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด วินโนหนี้วิ่งใช้งานแล้วมากกว่า 42 ล้านกิโลเมตร ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปประมาณ 2 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ยังช่วยลดมลภาวะทางอากาศ ลดการเกิดฝุ่น PM2.5 และมลภาวะทางเสียง และประเทศดีขึ้น จากการที่วินโนหนี้ พัฒนาโดยคนไทยในประเทศไทย ทำให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรม การพัฒนาคนและการสร้างงานในประเทศ

นายชัยวัฒน์  กล่าวอีกว่า การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตอีกมาก หากได้รับการสนับสนุนและผลักดันจากหน่วยงานภาครัฐในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การสนับสนุนค่าพลังงานไฟฟ้าในราคาพิเศษสำหรับสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ การจัดตั้งหน่วยงานกลางแบบ One Stop Service ในการขออนุมัติการติดตั้งมิเตอร์ หรือการพิจารณากฏหมาย เช่น กฎหมายขนส่ง การจดทะเบียนป้ายเหลือง การจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า กฏหมายเกี่ยวกับวินเพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้า รวมถึงการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนและการทำ Carbon Credit Certificate และมาตรการสนับสนุนอื่นๆ อาทิ การทำประกันภัยสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า การให้ใช้พื้นที่หน่วยงานภาครัฐหรือกรุงเทพมหานคร เพื่อทำจุดติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่หรือในอัตราพิเศษ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงทุนวิจัยและพัฒนา ฯลฯ สำหรับ วินโนหนี้ที่มุ่งมั่นเป็นผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Battery as a Service (BaaS) 

สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานจากกว่า 1,000 รายและสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่120 แห่ง ณ สิ้นปี 2566 เป็นผู้ใช้งาน 60,000 ราย และสถานี 3,000 แห่งในปี 2573 เดินหน้าส่งเสริมการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ สนับสนุนการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม รวมถึงรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของประเทศและของโลก ผ่านประสบการณ์การขับขี่ที่ “ดีต่อเราและต่อโลก” ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้โดยสารบีทีเอสมีประสบการณ์ การเดินทางแบบ First Mile to Last Mile ด้วยพลังงานสะอาด คือสามารถเดินทางออกจากบ้าน จนถึงกลับเข้าบ้านด้วยการบริการขนส่งสาธารณะที่ใช้ไฟฟ้าตลอดเส้นทาง